เลขที่หนังสือ กค 0706/7453 ภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย กรณีการจ่ายเงินค่าเช่าเวลาออกอากาศ

เลขที่หนังสือ กค 0706/7453 ภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย กรณีการจ่ายเงินค่าเช่าเวลาออกอากาศ

เลขที่หนังสือ : กค 0706/7453
วันที่ : 6 สิงหาคม 2547
เรื่อง : ภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย กรณีการจ่ายเงินค่าเช่าเวลาออกอากาศ
ข้อกฎหมาย : มาตรา 40(8), คำสั่งกรมสรรพากร ที่ ท.ป.4/2528
ข้อหารือ : บริษัท อ. ประกอบกิจการสถานีโทรทัศน์ โดยบริษัทฯ มีรายได้หลักจากธุรกรรม 2 ประเภทคือ รายได้จากการรับจ้างโฆษณาสินค้าให้แก่ลูกค้าในช่วงเวลาออกอากาศที่บริษัทฯ เป็นผู้จัดทำรายการเอง และรายได้จากการให้เช่าเวลาออกอากาศในช่วงเวลาที่บริษัทฯ มีเวลาเหลือ โดยผู้เช่าเวลาจะผลิตหรือจัดหารายการโทรทัศน์และติดต่อโฆษณาเอง ซึ่งผู้เช่าเวลาจะมีรายได้จากการรับจ้างโฆษณาสินค้าสำหรับรายได้จากการให้เช่าเวลาออกอากาศ บริษัทฯ ได้กำหนดเงื่อนไขกับผู้เช่าเวลา โดยมีสาระสำคัญดังนี้
(1) อายุสัญญาการเช่าเวลามี 2 ประเภท ประเภทแรกเช่าระยะยาว ไม่เกิน 3 เดือนและประเภทที่สองเป็นการเช่าเวลาในการถ่ายทอดสด โดยเมื่อสัญญาสิ้นสุดลงเป็นดุลยพินิจของบริษัทฯแต่ฝ่ายเดียวที่จะให้ผู้เช่าเวลาได้เช่าเวลาต่อไปอีกหรือไม่ ทั้งนี้ บริษัทฯ อาจยกเลิกสัญญาก่อนสัญญาครบกำหนด โดยแจ้งให้ผู้เช่าเวลาทราบล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 15 วัน
(2) รายการที่ผู้เช่าเวลานำมาออกอากาศมีระยะเวลาตั้งแต่ 2 นาที จนถึง 90 นาทีสำหรับจำนวนในการออกอากาศอาจจะออกทุกวันหรือทุกสัปดาห์ โดยบริษัทฯ จะพิจารณาจัดเวลาให้ตามความเหมาะสม
(3) ผู้เช่าเวลาจะต้องส่งเทปรายการให้บริษัทฯ ทำการตรวจสอบก่อนออกอากาศทุกครั้งหากบริษัทฯ เห็นว่าเนื้อหาในรายการไม่เหมาะสม ขัดระเบียบ จารีตประเพณีของสังคมและความมั่นคงหรือโฆษณาไม่ถูกต้องตามกฎหมายต่าง ๆ บริษัทฯ มีสิทธิขอให้ผู้เช่าเวลาเปลี่ยนแปลงหรืองดออกอากาศรายการหรือโฆษณานั้น ๆ ได้
(4) ผู้เช่าเวลาเป็นผู้จัดทำหรือนำรายการมาออกอากาศเอง โดยมีรายได้จากการโฆษณาสินค้า/ประชาสัมพันธ์
(5) บริษัทฯ ยังคงมีสิทธิในการใช้ประโยชน์จากช่วงเวลาที่ให้เช่า ในกรณีที่บริษัทฯ มีความจำเป็น เช่น การถ่ายทอดสดรายการของโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย โดยบริษัทฯจะแจ้งให้ผู้เช่าเวลาทราบล่วงหน้าและจะจัดสรรช่วงเวลาใหม่ทดแทนให้ต่อไปในการจ่ายเงินค่าเช่าเวลาออกอากาศให้แก่บริษัทฯ ผู้เช่าเวลาจะหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่ายในอัตราร้อยละ 5.0 โดยผู้เช่าเวลามีความเห็นว่า เงินดังกล่าวเป็น “ค่าเช่า” ตามมาตรา 40(5)(ก)แห่งประมวลรัษฎากร แต่บริษัทฯ มีความเห็นว่า เงินดังกล่าวแม้จะเรียกว่าเป็นค่าเช่าเวลาออกอากาศก็ตาม แต่จากลักษณะและเงื่อนไขตามที่กำหนดไว้ในสัญญาและแนวปฏิบัติที่ทำต่อกันนั้น บริษัทฯ มิได้มีการส่งมอบทรัพย์สินใด ๆ ให้แก่ผู้เช่าเวลาครอบครองภายในระยะเวลาใดเวลาหนึ่งแต่อย่างใด บริษัทฯยังคงมีสิทธิเด็ดขาดในช่วงเวลาที่ผู้เช่าเวลาใช้เพื่อจัดรายการออกอากาศ จึงถือได้ว่าผู้เช่าเวลาได้ใช้เวลาออกอากาศเพื่อขายโฆษณาแก่ผู้สนับสนุนรายการ ดังนั้น ค่าเช่าเวลาออกอากาศดังกล่าว ควรจัดเป็นเงินได้จากการรับโฆษณา ตามมาตรา 40(8) แห่งประมวลรัษฎากร ซึ่งจะต้องถูกหักภาษีเงินได้ ณที่จ่ายในอัตราร้อยละ 2.0 ตามข้อ 10 ของคำสั่งกรมสรรพากร ที่ ท.ป.4/2528 ฯ ลงวันที่ 26กันยายน พ.ศ. 2528 จึงหารือว่า ความเข้าใจของบริษัทฯ ถูกต้องหรือไม่
แนววินิจฉัย : กรณีบริษัท อ. ให้เช่าเวลาออกอากาศแก่ผู้เช่า ซึ่งตามสัญญาเช่าเวลาดังกล่าว ผู้ให้เช่าเวลาออกอากาศไม่มีการส่งมอบทรัพย์สินที่เช่าให้ผู้เช่าครอบครองในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่งหรือได้ใช้หรือได้รับประโยชน์ในทรัพย์สินใด ๆ แต่อย่างใด กรณีดังกล่าวจึงไม่ถือว่าเป็นการเช่าทรัพย์ตามมาตรา 537แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ หากแต่ถือเป็นสัญญาบริการ และโดยที่ผู้เช่าเวลาออกอากาศเป็นผู้ผลิตรายการและจัดหาโฆษณาเองโดยไม่มีการว่าจ้างให้ผู้ให้เช่าโฆษณาสินค้าแก่ผู้เช่าเวลา ดังนั้น การจ่ายเงินดังกล่าว จึงมิใช่เป็นการจ่ายค่าโฆษณาให้แก่ผู้ให้เช่า แต่เป็นการจ่ายค่าบริการอื่นซึ่งถือเป็นเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40(8) แห่งประมวลรัษฎากร บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลหรือนิติบุคคลอื่นซึ่งเป็นผู้จ่ายเงินได้ให้แก่บริษัทฯ จึงมีหน้าที่หักภาษี ณ ที่จ่าย และนำส่งในอัตราร้อยละ 3.0ของยอดเงินได้ที่จ่ายนั้น ทั้งนี้ ตามข้อ 12/1 ของคำสั่งกรมสรรพากร ที่ ท.ป.4/2528 เรื่อง สั่งให้ผู้จ่ายเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40 แห่งประมวลรัษฎากร มีหน้าที่หักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย ลงวันที่26 กันยายน พ.ศ. 2528 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยคำสั่งกรมสรรพากร ที่ ท.ป.104/2544 เรื่อง สั่งให้ผู้จ่ายเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40 แห่งประมวลรัษฎากร มีหน้าที่หักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย ลงวันที่15 กันยายน พ.ศ. 2544
เลขตู้ : 67/33076

ขอบคุณบทความจาก ::www.rd.go.th
 467
ผู้เข้าชม
Get started for free today. ทดลองใช้งาน

สร้างเว็บไซต์สำเร็จรูปฟรี ร้านค้าออนไลน์