เลขที่หนังสือ | : กค 0811/00218 |
วันที่ | : 12 มกราคม 2542 |
เรื่อง | : ภาษีเงินได้นิติบุคคล กรณีดอกเบี้ยเงินกู้เพื่อก่อสร้างอาคารโรงงานและซื้อเครื่องจักร |
ข้อกฎหมาย | : มาตรา 65 ทวิ (2), มาตรา 65 ทวิ (5), พระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ 145) พ.ศ. 2527 |
ข้อหารือ | : ในปี 2540 บริษัทฯ ได้เริ่มโครงการขยายกำลังการผลิตด้วยการก่อสร้างโรงงาน ซื้อเครื่องจักรจากต่างประเทศ และว่าจ้างบริษัทต่างประเทศแนะนำการติดตั้งเครื่องจักร แต่เนื่องจากในเดือนกรกฎาคม 2540 ประเทศไทยมีการปรับปรุงระบบอัตราแลกเปลี่ยนซึ่งส่งผลให้เศรษฐกิจของประเทศตกต่ำ และบริษัทฯ ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจทำให้ต้องชะลอโครงการก่อสร้างไว้ชั่วคราว บริษัทฯ มีความเข้าใจว่า ดอกเบี้ยเงินกู้สำหรับค่าอาคารโรงงานที่อยู่ระหว่างก่อสร้างและค่า เครื่องจักรที่ยังรอการติดตั้งที่บริษัทฯ ต้องจ่ายในช่วงเวลาหยุดโครงการขยายกำลังการผลิต บริษัทฯมีสิทธินำมาถือเป็นรายจ่ายในการคำนวณกำไรสุทธิเพื่อเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลได้ ทั้งนี้ ตามมาตรฐานการบัญชี ฉบับที่ 15 ของสมาคมนักบัญชีและผู้สอบบัญชีรับอนุญาตแห่งประเทศไทย เรื่อง การปฏิบัติในการตั้งต้นทุนการกู้ยืมเป็นราคาทุนของทรัพย์สิน และต่อเมื่อโครงการขยายกำลังการผลิตได้ดำเนินต่อไปดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายนับตั้งแต่ช่วงเวลาที่โครงการขยายได้ดำเนินต่อไปจนถึงวันที่โรงงานเสร็จพร้อมทำการผลิตสินค้าได้ให้ถือเป็นต้นทุนของทรัพย์สิน ความเห็นของบริษัทฯ ดังกล่าวถูกต้องหรือไม่ |
แนววินิจฉัย | : กรณีตามข้อเท็จจริงข้างต้นอาจแยกพิจารณาได้ ดังนี้ 1. กรณีค่าดอกเบี้ยเงินกู้เพื่อการก่อสร้างอาคารโรงงานที่บริษัทฯ ได้จ่ายไปในระหว่างชะลอโครงการก่อสร้างหรือในระหว่างการก่อสร้างอาคารโรงงานจนถึงการก่อสร้างแล้วเสร็จหรืออาคารใช้การได้ตามสภาพให้ถือเป็นรายจ่ายอันมีลักษณะเป็นการลงทุน ตามมาตรา 65 ตรี (5) แห่งประมวลรัษฎากร จะนำไปหักเป็นรายจ่ายในการคำนวณกำไรสุทธิไม่ได้ แต่มีสิทธินำไปรวมคำนวณเป็นมูลค่าอาคารโรงงาน เพื่อหักค่าสึกหรอและค่าเสื่อมราคา ตามมาตรา 65 ทวิ (2) แห่ง ประมวลรัษฎากร ประกอบกับพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ 145) พ.ศ. 2527ส่วนดอกเบี้ยเงินกู้ที่ต้องจ่ายไปหลังจากการก่อสร้างแล้วเสร็จหรืออาคารนั้นใช้การได้ตามสภาพ ให้ถือเป็นรายจ่ายในการคำนวณกำไรสุทธิของแต่ละรอบระยะเวลาบัญชีที่จ่ายได้ 2. กรณีค่าดอกเบี้ยเงินกู้เพื่อซื้อเครื่องจักรที่บริษัทฯ ได้จ่ายไปในระหว่างรอการติดตั้งเครื่องจักรในช่วงหยุดโครงการหรือที่ได้จ่ายไปในระหว่างที่ได้ซื้อเครื่องจักรจนกระทั่งเครื่องจักรนั้นได้รับการติดตั้งจนสามารถใช้การได้ตามสภาพ ให้ถือเป็นรายจ่ายอันมีลักษณะเป็นการลงทุน ตามมาตรา 65ตรี (5) แห่งประมวลรัษฎากร จะนำไปหักเป็นรายจ่ายในการคำนวณกำไรสุทธิไม่ได้ แต่มีสิทธินำดอกเบี้ยนั้นไปรวมคำนวณเป็นมูลค่าของเครื่องจักรเพื่อหักค่าสึกหรอและค่าเสื่อมราคา ตามมาตรา 65ทวิ (2) แห่งประมวลรัษฎากร ประกอบกับพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ 145) พ.ศ.2527ส่วนดอกเบี้ยเงินกู้ที่ต้องจ่ายไปหลังจากเครื่องจักรใช้การได้ตามสภาพ ให้ถือเป็นรายจ่ายในการคำนวณกำไรสุทธิของแต่ละรอบระยะเวลาบัญชีที่จ่ายได้ |
เลขตู้ | : 62/27402 |