เลขที่หนังสือ | : กค 0811/10215 |
วันที่ | : 7 กรกฎาคม 2541 |
เรื่อง | : ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา การเรียกเก็บภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย และอากรแสตมป์ในการจดทะเบียนประเภทให้ (ระหว่างจำนอง) |
ข้อกฎหมาย | : มาตรา 39, มาตรา 49 ทวิ, มาตรา 123 ตรี |
ข้อหารือ | : สำนักงานที่ดินขอทราบทางปฏิบัติเกี่ยวกับการเก็บภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย และอากรแสตมป์กรณีนาย ก. ยื่นคำขอจดทะเบียนประเภทให้ (ระหว่างจำนอง) พร้อมสิ่งปลูกสร้างแก่นาย ข. บุตรชาย โดยเสน่หาไม่มีค่าตอบแทน และนาย ข. ผู้รับให้ยินยอมรับภาระหนี้ที่นาย ก. จดทะเบียนจำนองเป็นประกันไว้กับธนาคาร ค.เป็นเงินจำนองทั้งสิ้น 1,400,000 บาท โดยได้แสดงราคาทรัพย์สินไว้เป็นเงิน 1,400,000 บาท เท่าราคาจำนอง และพนักงานเจ้าหน้าที่ได้ประเมินราคาทุนทรัพย์ที่ดินดังกล่าวพร้อมสิ่งปลูกสร้างรวมเป็นราคาประเมินทุนทรัพย์ 613,470 บาท ขอทราบว่าสัญญาให้(ระหว่างจำนอง) ที่ผู้ให้และผู้รับให้แจ้งว่าเป็นการให้โดยเสน่หาไม่มีค่าตอบแทน แต่ผู้รับให้ยินยอมรับภาระหนี้อันจำนองเป็นประกันเช่นนี้ พนักงานเจ้าหน้าที่จะต้องเรียกเก็บภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย และอากรแสตมป์ หรือไม่ และถ้าจะต้องเรียกเก็บแล้ว จะให้เรียกเก็บจากราคาใด กล่าวคือ จากราคาประเมินทุนทรัพย์ หรือราคาทุนทรัพย์ที่นาย ข. แสดงหรือจำนวนทุนทรัพย์ที่จำนอง |
แนววินิจฉัย | : กรณีตามข้อเท็จจริง นาย ก. ผู้ให้ยื่นคำขอจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรม เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2540 การโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างให้แก่นาย ข. เป็นการให้โดยเสน่หาไม่มีค่าตอบแทน แต่นาย ข. ผู้รับให้ต้องรับภาระหนี้จำนองเป็นเงิน 1,400,000 บาท การโอนกรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครองใน อสังหาริมทรัพย์ กรณีนี้จึงเป็นการขาย ตามคำนิยาม "ขาย" ตามมาตรา 39 แห่งประมวลรัษฎากร การจดทะเบียนขายอสังหาริมทรัพย์ระหว่างจำนอง โดยผู้ซื้อผู้ขายมีการตกลงให้ ผู้ซื้อยอมรับภาระหนี้ที่จำนองเป็นประกัน ซึ่งผู้ขายหรือลูกหนี้เป็นหนี้ผู้รับจำนองแทนผู้ขายหรือลูกหนี้โดยมิได้ชำระเงิน เช่น ผู้ซื้อผู้ขายตกลงซื้อขายที่ดินระหว่างจำนองโดยไม่มีการชำระเงิน แต่ผู้ซื้อยอมรับภาระหนี้ที่จำนองเป็นประกันเป็นเงิน 1,400,000 บาท โดยมีราคาประเมินทุนทรัพย์ในการจดทะเบียนเป็นเงิน613,470 บาท (1) การเรียกเก็บภาษีเงินได้จะต้องเรียกเก็บจากราคาประเมินทุนทรัพย์ เพื่อเรียกเก็บค่าธรรมเนียมจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรม ตามประมวลกฎหมายที่ดิน ซึ่งเป็นราคาที่ใช้อยู่ในวันที่มีการโอนนั้น ตามมาตรา 49 ทวิ แห่งประมวลรัษฎากร คือจำนวน 613,470 บาท ซึ่งถือเป็นราคาขาย (2) การเรียกเก็บอากรแสตมป์เป็นตัวเงินจะต้องเรียกเก็บจากราคาทุนทรัพย์ในการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรม หรือราคาประเมินทุนทรัพย์เพื่อเรียกเก็บค่าธรรมเนียมจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรม ตามประมวลกฎหมายที่ดินแล้วแต่อย่างใดจะมากกว่า ตามมาตรา 123 ตรี แห่งประมวลรัษฎากร คือ จำนวน 1,400,000 บาท |
เลขตู้ | : 61/26885 |