รู้ไว้ไม่เสียหายเรื่องควรรู้เกี่ยวกับ ภาษีมูลค่าเพิ่ม

รู้ไว้ไม่เสียหายเรื่องควรรู้เกี่ยวกับ ภาษีมูลค่าเพิ่ม


ภาษีมูลค่าเพิ่ม
 คืออะไร ทำไมเราถึงต้องจ่าย หลายๆ คนคงสงสัยกันว่าสินค้าหรือสิ่งของที่เราจ่ายไปทุกวันนี้ทำไมเราถึงต้องจ่ายภาษีมูลค่าเพิ่มทุกครั้ง แล้วถ้าหากเราไม่จ่ายภาษีมูลค่าเพิ่มจะได้ไหม? แล้วใครบ้างที่ต้องจ่ายภาษีมูลค่าเพิ่ม

ภาษีมูลค่าเพิ่ม คืออะไร

ภาษีมูลค่าเพิ่ม หรือ VAT (Value Added Tax) ที่เราเรียกติดปากเป็นอีกอีกหนึ่งภาษีที่คนทั่วไปไม่ชอบ เพราะภาษีมูลค่าเพิ่มเป็นภาษีทางอ้อมที่ทางรัฐบาลได้เรียกเก็บ ภาษีมูลค่าเพิ่มจะเป็นการเก็บจากการซื้อขายสินค้าหรือการให้บริการและสินค้านำเข้าเป็นหลัก โดยมีกรมสรรพากรเป็นผู้รับผิดชอบในการเก็บภาษี โดยปกติแล้วจะมีอัตราภาษีมูลค่าเพิ่มประมาณ 10% แต่ปัจจุบันมีกฎหมายพิเศษทำให้อัตราการเก็บภาษีลดลงเหลือ 7% ต่อปี และและใช้วิธีต่ออายุแบบรายปี

ใครบ้างที่ต้องจดภาษีมูลค่าเพิ่ม

กฎหมายกำหนดเอาไว้ว่าภาษีมูลค่าเพิ่ม คือ ภาษีที่ผู้ขายสินค้าหรือให้บริการที่มีการขายสินค้าหรือบริการเกิน 1.8 ล้านบาท/ปี ต้องจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม

จดภาษีมูลค่าเพิ่มจำเป็นต้องอยู่ในรูปแบบบริษัทหรือไม่?

ไม่จำเป็นต้องอยู่ในรูปแบบบริษัท ไม่ว่าคุณจะทำธุรกิจในรูปแบบบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคล หากรายได้จากการประกอบธุรกิจเกินกว่า 1.8 ล้านบาท การจดภาษีมูลค่าเพิ่ม คือสิ่งที่ไม่ควรลืม

ภาษีมูลค่าเพิ่มใครต้องเป็นคนจ่าย

ภาษีมูลค่าเพิ่มเป็นภาษีที่เรียกเก็บจากผู้บริโภค “ผู้บริโภคเป็นคนจ่ายภาษี” ส่วนคนขายหรือผู้ให้บริการไม่ต้องจ่ายภาษีมูลค่าเพิ่ม

ใครบ้างที่เป็นผู้บริโภคที่ต้องจ่ายภาษีมูลค่าเพิ่ม

ผู้บริโภคในที่นี้ คือคนที่ไม่ได้จดภาษีมูลค่าเพิ่ม อย่างเช่น พนักงานบริษัทรวมถึงบุคคลทั่วไป และร้านค้าที่ไม่ได้จดภาษีมูลค่าเพิ่ม

ใครบ้างที่ถูกเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม

ภาษีมูลค่าเพิ่มจะถูกเก็บจากคนธรรมดาไม่ว่าจะเป็นพนักงานบริษัทและคนที่มีหน้าที่เก็บภาษีมูลค่าเพิ่มคือ คนที่ขายสินค้าให้กับคนที่ให้บริการจดภาษีมูลค่าเพิ่ม

ภาษีขาย คือ

ภาษีขาย คือ เป็นภาษีที่เก็บจากลูกค้าที่ซื้อสินค้าหรือเก็บจากคนที่รับบริการเมื่อขายสินหรือหรือรับชำระค่าบริการ จะต้องนำส่งให้กรมสรรพากร โดยผู้ให้บริการจะเรียเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มรวมกับราคาสินค้าหรือแยกเก็บภาษีต่างหากก็ได้

ที่มา : ภาษีขาย (cad.go.th)

ภาษีซื้อ คืออะไร

ภาษีซื้อ คือ ภาษีมูลค่าเพิ่มที่คนขายสินค้าหรือให้บริการเก็บจากคนทั่วไป และสามารถนำภาษีไปขอคืน หรือนำไปหัก กับภาษีขายได้

ภ.พ. 30 คืออะไร

ภ.พ. 30 คือ แบบแสดงรายการสรุปสำหรับภาษีซื้อและภาษีขาย เพื่อนำข้อมูลส่วนนี้ส่งไปยังกรมสรรพากรโดยต้องนำส่งทุกเดือน ภายในวันที่ 15 ของเดือนถัดไป หรือจะยื่นผ่านออนไลน์ก็ได้เช่นกัน ซึ่งการยื่นแบบ ภ.พ. 30 นี้ จะเป็นการรวบรวมกิจกรรมการซื้อขายทุกอย่างที่เกิดขึ้นภายในเดือนแต่ละเดือน ซึ่งถ้าหากไม่มียอดซื้อขายเลย ก็สามารถนำส่งแบบเปล่าได้

การยื่น ภ.พ. 30 ต้องเตรียมอะไรบ้าง

การเตรียมตัวและเตรียมเอกสารสำหรับยื่น ภ.พ. 30 นั้น ต้องมีการจัดเก็บเอกสารใบกำกับภาษีซื้อตัวจริง และสำเนาใบกำกับภาษีขายในแต่ละเดือน เพื่อนำมาทำเป็นรายงานภาษีซื้อและภาษีขาย แล้วการนำส่งสรรพากรนั้นจะต้องทำเอกสาร 2 ชิ้นด้วยกัน นั่นคือ ภ.พ. 30 และใบแนบ ภ.พ. 30 ซึ่งคือรายละเอียดภาษีซื้อและภาษีขายในรอบเดือนนั้นๆ

ต้องยื่นภาษีมูลค่าเพิ่มเมื่อไหร่?

กิจการที่จด VAT ต้องยื่นภาษีภายในวันที่ 15 ของเดือนถัดไป เช่น ถ้ามีรายการซื้อขายสินค้า/บริการที่มี VAT เกิดขึ้นในเดือนมิถุนายน กิจการจะต้องยื่นแบบภาษีภายในวันที่ 15 ของเดือนกรกฎาคม และหากวันที่ 15 ของเดือนกรกฎาคมตรงกับวันหยุด ก็ยื่นแบบภาษีได้จนถึงวันทำการถัดไปครับ และหากกิจการไหนที่จดทะเบียนยื่นแบบภาษีผ่านทางอินเตอร์เน็ต ก็จะมีกำหนดเวลาในการยื่นภาษีมากกว่าปกติ เพิ่มอีก 8 วันด้วย

ขอบคุณบทความจาก :: www.rd.go.th 
ประกาศบทความโดย :: www.prosofterp.com

 547
ผู้เข้าชม
Get started for free today. ทดลองใช้งาน

สร้างเว็บไซต์สำเร็จรูปฟรี ร้านค้าออนไลน์