กรณีบริษัทฯ ประกอบกิจการผลิตเสื้อผ้าสำเร็จรูปและผลิตเครื่องหนัง ได้มอบทุนการศึกษาระดับปริญญาโทแก่พนักงานของบริษัทฯ เพื่อศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยในประเทศญี่ปุ่นเป็นหลักสูตรที่เกี่ยวกับระบบการผลิตสมัยใหม่ ซึ่งจะก่อให้เกิดประโยชน์ในการทำงานสำหรับรองรับระบบในอนาคต ระยะเวลาของหลักสูตร 2 ปี หลังจากจบการศึกษาแล้ว ผู้ได้รับทุนต้องทำงานให้บริษัทฯ เป็นระยะเวลา 2 เท่าของระยะเวลาที่ได้รับทุนการศึกษา มีค่าใช้จ่ายในการศึกษา
ประกอบด้วย ค่าเทอม ค่าหนังสือ ค่าครองชีพ ค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ค่าประกันสุขภาพ และค่าอุปกรณ์ที่ใช้ในหอพัก เช่น ทีวี ตู้เย็น เครื่องครัว จึงหารือกรมสรรพากรว่า บริษัทฯ มีสิทธินำค่าใช้จ่ายดังกล่าวถือเป็นรายจ่ายในการคำนวณกำไรสุทธิเพื่อเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลเป็นจำนวน 2 เท่าของค่าใช้จ่ายได้หรือไม่ และค่าใช้จ่ายดังกล่าวถือเป็นประโยชน์เพิ่มของพนักงานผู้ได้รับทุนการศึกษาหรือไม่ ซึ่งกรมสรรพากรได้ตอบข้อหารือพอสรุปได้ดังนี้ 1. กรณีบริษัทฯ ได้มอบทุนการศึกษาระดับปริญญาโทแก่พนักงานของบริษัทฯ เพื่อศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยในประเทศญี่ปุ่น หากค่าใช้จ่ายดังกล่าวเป็นประโยชน์แก่การดำเนินงานของบริษัทฯ บริษัทฯ มีสิทธินำมาเป็นรายจ่ายในการคำนวณกำไรสุทธิเพื่อเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลได้ ไม่ต้องห้ามตามมาตรา 65 ตรี (13) แห่งประมวลรัษฎากร 2. กรณีที่บริษัทฯ มีสิทธิหักเป็นค่าใช้จ่ายได้เป็นจำนวน 2 เท่า ของค่าใช้จ่ายนั้น ต้องเป็นการส่งลูกจ้างเข้ารับการศึกษาหรือฝึก อบรมในสถานศึกษาที่ทางราชการของประเทศไทยจัดตั้งขึ้น หรือโรงเรียนเอกชน หรือสถาบันอุดมศึกษาเอกชน หรือสถานฝึกอบรมฝีมือแรงงานเฉพาะที่มีฐานะเป็นมูลนิธิ สมาคม บริษัทที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายไทยหรือนิติบุคคลอื่นที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายเฉพาะและการให้บริการการศึกษาหรือฝึกอบรมต้องเป็นการศึกษาหรือฝึกอบรมในประเทศไทย เพื่อพัฒนาคุณภาพ ความรู้ความสามารถ ทักษะ ฝีมือของลูกจ้างให้สูงขึ้น 3. กรณีหากบริษัทฯ จ่ายค่าใช้จ่ายในการส่งพนักงานไปศึกษาต่อดังกล่าวเป็นประโยชน์แก่การดำเนินงานของบริษัทฯ ไม่ถือเป็นประโยชน์เพิ่มของพนักงานผู้ได้รับทุนขอบคุณบทความจาก :: www.rd.go.thประกาศบทความโดย :: www.prosofterp.com
สมัครรับข่าวสาร