info@prosofterp.com
Prosoft Asset Management
081-359-6934
Prosoft WINSpeed Cloud
081-359-6933
Menu
Home
Product
Prosoft WINSpeed Cloud
Prosoft iERP Asset
Feature
Promotion
News & Promotion
E-Newsletter
Promotion
Event
บทความที่น่าสนใจ
Blog
กฎหมาย/ภาษี
การเงินการบัญชี
เกร็ดความรู้ภาษีต่างๆ
ข้อหารือภาษีอากร
กิจการ/อื่นๆ
Services
จองอบรม Online
FAQs
คู่มือการใช้งาน
บริการ Maintenance
วิธีการชำระเงิน
Manual
Prosoft Assets Management
Prosoft WINSpeed Cloud
Help
System Requirement
Guidelines
About Us
About Us
Personal Data Protection Act
Contact Us
ทดลองใช้งานฟรี
หน้าแรก
Blog
กฎหมาย/ภาษี
ควบรวมกิจการ อย่ามองผ่านภาระภาษี
ควบรวมกิจการ อย่ามองผ่านภาระภาษี
ย้อนกลับ
หมวดหมู่บทความ
กฎหมาย/ภาษี
การเงินการบัญชี
เกร็ดความรู้ภาษีต่างๆ
ข้อหารือภาษีอากร
กิจการ/อื่นๆ
หน้าแรก
Blog
กฎหมาย/ภาษี
ควบรวมกิจการ อย่ามองผ่านภาระภาษี
ควบรวมกิจการ อย่ามองผ่านภาระภาษี
ย้อนกลับ
ควบรวมกิจการ อย่ามองผ่านภาระภาษี
การควบเข้ากันของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลมีกำหนดไว้ในประมวลรัษฎากร มาตรา 73 มาตรา 85/15 ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1073 ถึงมาตรา 1076 (กรณีห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล)มาตรา 1238 ถึง 1243 (กรณีบริษัท จำกัด) และพระราชบัญญัติบริษัทมหาชนจำกัด พ.ศ. 2542มาตรา 146 ถึง 1531 (กรณีบริษัทมหาชน)ซึ่งการควบเข้ากันของกิจการเป็นช่องทางหนึ่งในการยุบรวมนิติบุคคลเข้าด้วยกันเพื่อแก้ปัญหา
ความเยิ่นเย้อของธุรกรรมการค้าระหว่างนิติบุคคลในเครือเดียวกัน นอกจากจะไม่มีประโยชน์เชิงเศรษฐกิจแล้วยังมีประเด็นภาษีหลากหลายซึ่งสาเหตุในการควบบริษัทอาจมีได้หลายประการ เช่น เพื่อขจัดการค้าขายแข่งขัน
ของแต่ละบริษัท เพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายของแต่ละบริษัท เพื่อขยายกิจการค้า หรือเพื่อประโยชน์ในการดำเนินงาน เป็นต้น ซึ่งแต่เดิมเรื่องการควบกิจการอาจจำกัดอยู่แต่ในกลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่แต่ปัจจุบันกิจการขนาดกลางและ
ขนาดเล็ก (SMEs) ก็มีสิทธิเลือกใช้วิธีการควบกิจการได้ เพราะประมวลรัษฎากรได้ยกเว้นภาษีให้เช่นเดียวกัน
ผู้เขียนมีกรอบการนำเสนอ ดังนี้
1. หลักการทั่วไปของการควบกิจการ
1.1 หลักเกณฑ์ตามกฎหมายแพ่ง
1.2 หลักเกณฑ์ตามพระราชบัญญัติบริษัทมหาชน จำกัด พ.ศ. 2535
2. สิทธิประโยชน์ทางภาษีอากร กรณีการควบกิจการพร้อมตัวอย่างแนววินิจฉัยที่น่าสนใจพิจารณาเนื้อหาตามลำดับได้ ดังนี้
1.หลักการทั่วไปของการควบกิจการ
การควบกิจการ (Merger) หมายถึง กรณีที่นิติบุคคลตั้งแต่สองนิติบุคคลขึ้นไปมีการโอนกิจการหรือทรัพย์สินหรือหุ้นทั้งหมดให้แก่กันไม่ว่าในระดับผู้ถือหุ้นหรือในระดับนิติบุคคลก็ตาม(หากเป็นเพียงการโอนบางส่วนอาจถือเป็นเพียงการเข้าครอบงำกิจการ (Take over) เท่านั้น)ซึ่งหากเป็นกรณีที่นิติบุคคลผู้โอนมีการโอนทรัพย์สินและหนี้สินให้แก่นิติบุคคลผู้รับโอนก็จะเรียกการควบรวมกิจการในรูปแบบนี้ว่า “statutory merger”หรือหากเป็นกรณีที่นิติบุคคลผู้โอนได้มีการรวมเข้าเป็นบริษัทในเครือของนิติบุคคลผู้รับโอนก็จะเรียกวิธีการควบรวมกิจการรูปแบบนี้ว่า
“subsidiary merger” หรือหากเป็นกรณีที่บริษัทในเครือของนิติบุคคลผู้รับโอนได้ถูกรวมเข้ากับนิติบุคคลผู้โอนก็จะเรียกรูปแบบนี้ว่า
“reverse subsidiary merger”การควบกิจการ หมายถึง การรวมกิจการของบริษัทตั้งแต่ 2 บริษัทขึ้นไปให้เป็นกิจการเดียวกันซึ่งมีการรวมกิจการได้หลายรูปแบบในประเทศไทยตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์กำหนดให้บริษัทตั้งแต่ 2 บริษัทหรือมากกว่านั้นเมื่อได้ควบกัน บริษัทเดิมทั้งหมดจะต้องจดทะเบียนเลิกไปและจัดตั้งบริษัทขึ้นใหม่กล่าวโดยสั้นๆ การควบกิจการ (Mergers)หมายถึง การที่นิติบุคคลตั้งแต่สองนิติบุคคลขึ้นไปตกลงรวมกิจการกันเป็นกิจการเดียวการควบกิจการนั้นแตกต่างจากการโอนกิจการ เนื่องจากเมื่อได้มีการควบรวมกิจการ
แล้ว สถานภาพของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลสองแห่งจะต้องควบรวมกัน บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลเดิมสิ้นสภาพเป็นนิติบุคคล และเป็นบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลใหม่เพียงนิติบุคคลเดียว
2.สิทธิประโยชน์ทางภาษีอากร กรณีการควบกิจการ
ข้อพิจารณาทางภาษีอากรกรณีการควบรวมกิจการโดยการได้มาซึ่งหุ้นหรือทรัพย์สินนั้นการควบเข้ากันของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มิได้ถือว่าบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่
ควบเข้ากันเลิกกันแต่อย่างใด เพียงแต่กำหนดว่าแต่ละนิติบุคคลต้องนำความไปจดทะเบียนต่อนายทะเบียนและบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ตั้งขึ้นโดยการควบเข้ากันนั้น ต้องจดทะเบียนเป็นบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลขึ้นใหม่แต่ตามประมวลรัษฎากร เมื่อบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลควบเข้ากันถือว่าแต่ละบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ควบเข้ากันนั้นได้เลิกกันตามที่บัญญัติไว้ในประมวลรัษฎากร มาตรา 73และกรณีเป็นผู้ประกอบการจดทะเบียน อันเป็นนิติบุคคลประสงค์จะควบเข้ากันนั้น จะต้องแจ้งการเลิกประกอบกิจการ ตามมาตรา 85/15 แห่งประมวลรัษฎากรเสียก่อนและนิติบุคคลใหม่ซึ่งได้ควบเข้ากันจะต้องยื่นคำขอจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มภายใน 15 วันนับแต่วันที่ได้จดทะเบียนนิติบุคคลใหม่ ตามที่กำหนดไว้ในมาตรา 85/14 แห่งประมวลรัษฎากร
Click
Download
รายละเอียด ควบรวมกิจการ อย่ามองผ่านภาระภาษีได้ที่รูปภาพ
ข
อบคุณบทความจาก ::
สรรพากรสาส์น
ประกาศบทความโดย ::
www.prosofterp.com
1351
ผู้เข้าชม
สมัครรับข่าวสาร
Get started for free today.
ทดลองใช้งาน
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ (Cookies) เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น
นโยบายคุกกี้
ตั้งค่าคุกกี้
ยอมรับทั้งหมด
×
ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว
คุกกี้พื้นฐานที่จำเป็น
เปิดใช้งานตลอดเวลา
คุกกี้พื้นฐานที่จำเป็น เพื่อช่วยให้การทำงานหลักของเว็บไซต์ใช้งานได้ รวมถึงการเข้าถึงพื้นที่ที่ปลอดภัยต่าง ๆ ของเว็บไซต์ หากไม่มีคุกกี้นี้เว็บไซต์จะไม่สามารถทำงานได้อย่างเหมาะสม และจะใช้งานได้โดยการตั้งค่าเริ่มต้น โดยไม่สามารถปิดการใช้งานได้
คุกกี้ในส่วนวิเคราะห์
คุกกี้ในส่วนวิเคราะห์ จะช่วยให้เว็บไซต์เข้าใจรูปแบบการใช้งานของผู้เข้าชมและจะช่วยปรับปรุงประสบการณ์การใช้งาน โดยการเก็บรวบรวมข้อมูลและรายงานผลการใช้งานของผู้ใช้งาน
คุกกี้ในส่วนการตลาด
คุกกี้ในส่วนการตลาด ใช้เพื่อติดตามพฤติกรรมผู้เข้าชมเว็บไซต์เพื่อแสดงโฆษณาที่เหมาะสมสำหรับผู้ใช้งานแต่ละรายและเพื่อเพิ่มประสิทธิผลการโฆษณาสำหรับผู้เผยแพร่และผู้โฆษณาสำหรับบุคคลที่สาม
สร้างเว็บไซต์สำเร็จรูปฟรี
By SoGoodWeb.com