เทศกาลการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2012 ที่ผ่านไปนั้น นอกจากจะได้ดูฟุตบอล เชียร์ทีมที่ชอบแล้ว ก็มีหลายท่านรอลุ้นกับกรณีส่งไปรษณียบัตรทายผลฟุตบอลยูโรกับสื่อต่างๆ ทั้งโทรทัศน์ หนังสือพิมพ์และอื่นๆ ถ้าหากมีโชคได้รางวัลเป็นเงินหรือสิ่งของสิ่งแรกที่ต้องรับรู้คือเมื่อไปรับเงินรางวัล ผู้จ่ายเงินให้จะต้องหักภาษี ณ ที่จ่ายไว้ร้อยละ 5 ของเงินรางวัล ผู้โชคดีที่ได้รับรางวัลเงินสดหรือของรางวัลจากการชิงโชคตามรายการต่างๆ นั้นเป็นที่ทราบกันดีว่ารางวัลที่ได้รับถือเป็นเงินได้ที่จะต้องเสียภาษีตามประมวลรัษฎากร และมีประเด็นทางภาษีทั้งในด้านผู้รับรางวัลและผู้จ่าย รางวัลที่ต้องเกี่ยวข้องกับกระบวนการทางภาษีหลายประเด็นกรณีภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ผู้โชคดีดังกล่าวมีหน้าที่ต้องนำมูลค่าของรางวัลที่ได้รับไปยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาประจำปี รวมกับเงินได้ประเภทอื่นๆ (ถ้ามี)ภายในเดือนมีนาคมของปีถัดไป และในกรณีที่ผู้โชคดีเป็นผู้เยาว์ ก็เป็นหน้าที่ของผู้แทนโดยชอบธรรม ได้แก่ บิดา มารดา หรือผู้ปกครองต้องทำหน้าที่ยื่นแบบและชำระภาษีแทน สำหรับภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่ายต้องคำนวณหักภาษีเงินได้ณ ที่จ่าย 5% ของมูลค่ารางวัลก่อนหรือไม่ในส่วนของภาษีเงินได้นิติบุคคล เช่นกรณีผู้จ่ายรางวัลที่เป็นนิติบุคคลจะมีสิทธินำมูลค่าของรางวัลมาเป็นรายจ่ายในการคำนวณกำไรสุทธิได้หรือไม่สำหรับภาษีมูลค่าเพิ่ม รางวัลที่เป็นสินค้าเช่น รถยนต์ รถจักรยานยนต์ โทรทัศน์ โทรศัพท์มือถือ เป็นต้น ซึ่งในการซื้อหามาใช้ในการจับสลากชิงโชค จะถือว่านำมาใช้ในการประกอบกิจการ และภาษีซื้อที่เกิดจากการซื้อรถยนต์หรือสิ่งของอย่างอื่นมีสิทธินำมาใช้ในการคำนวณภาษีมูลค่าเพิ่มได้หรือไม่ และเมื่อได้แจกรางวัลให้แก่ผู้โชคดี ถือเป็นการขายต้องนำภาษีมูลค่าเพิ่มจากการขายดังกล่าวมารวมคำนวณเพื่อเสียภาษีมูลค่าเพิ่มด้วยใช่หรือไม่และในส่วนภาษีธุรกิจเฉพาะจะเป็นกรณีแจกบ้านพร้อมที่ดิน ถือเป็นสินค้าที่อยู่ในกำหนดที่ต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะ เมื่อมีการจดทะเบียนโอนบ้านพร้อมที่ดินดังกล่าว พร้อมทั้งคำนวณหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย 5% ของมูลค่าบ้านและที่ดินนั้นใช่หรือไม่ ที่กล่าวมาล้วนเป็นเรื่องที่ผู้ได้รับรางวัลและผู้จ่ายรางวัลควรต้องรู้ หากไม่ได้ปฏิบัติตามกฎหมายแล้วอาจต้องรับผิดทั้งทางแพ่งและอาญาโดยไม่เจตนาก็เป็นได้ ผู้เขียนมีการลำดับเนื้อหา โดยอธิบายในแต่ละประเภทประกอบกับแนววินิจฉัยที่น่าสนใจ
