มูลนิธิหรือสมาคมซึ่งมีหน้าที่เสียภาษีเงินได้นิติบุคคลจะต้องเสียภาษีจากยอดรายรับก่อนหักรายจ่ายในอัตรา ดังนี้
(ก) เงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40(1)-(7) แห่งประมวลรัษฎากร เช่น เงินได้จากดอกเบี้ย เงินปันผล ค่าเช่า ค่าสิทธิ ค่านายหน้า เป็นต้น เสียภาษีในอัตราร้อยละ 10.0
(ข) เงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40 (8) แห่งประมวลรัษฎากร ซึ่งได้แก่เงินได้จากธุรกิจการพาณิชย์ การเกษตร การอุตสาหกรรม การขนส่ง การขายอสังหาริมทรัพย์ หรือการอื่น ๆ นอกเหนือจาก(ก) เสียภาษีในอัตราร้อยละ 2 .0
การคำนวณภาษี
เมื่อมูลนิธิหรือสมาคมมีรายได้จากการประกอบกิจการจะต้องนำรายได้ ซึ่งไม่ได้รับยกเว้นมาคำนวณภาษี โดยคำนวณจากรายได้ก่อนหักรายจ่าย คูณด้วยอัตราภาษีร้อยละ 10.0 หรือร้อยละ 2.0 แล้วแต่กรณี ผลที่ได้เป็นภาษีที่ต้องเสีย
การคำนวณภาษีเงินได้นิติบุคคลของมูลนิธิหรือสมาคม จะต้องคำนวณตามรอบระยะเวลาบัญชีเช่นเดียวกับ บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล
ตัวอย่างการคำนวณภาษี
สมาคม ก. มีรายได้จากการประกอบกิจการ และไม่ได้รับยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล ในปี 2555 สมาคมมีรายได้ ดังนี้
(1) ค่าลงทะเบียน
50,000
บาท
(2) เงินที่ได้รับจากการบริจาค
120,000
(3) ดอกเบี้ยเงินฝากธนาคาร
10,000
(4) รายได้จากค่านายหน้า
20,000
(5) รายได้จากการขายหนังสือ
(6) รายได้จากการให้เช่าทรัพย์สินของสมาคม
(7) รายได้จากการจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่ม
60,000
(1) ค่าลงทะเบียน และ
(2) เงินที่ได้รับจากการบริจาคได้รับยกเว้นไม่ต้องนำมาเสียภาษีเงินได้
อัตราภาษี 10%
(10,000x10%)
=
1,000
(4) ค่านายหน้า
(20,000x10%)
2,000
(5) ค่าจำหน่ายหนังสือ
อัตราภาษี 2%
(10,000x2%)
200
(6) ค่าเช่าทรัพย์สิน
(7) ค่าจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่ม
(60,000x2%)
1,200
รวมภาษีที่ต้องเสีย
6,400
สมัครรับข่าวสาร