เลขที่หนังสือ | : กค 0702/2478 |
วันที่ | : 8 พฤษภาคม 2566 |
เรื่อง | : ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา กรณีการเสียภาษีจากแหล่งเงินได้นอกประเทศ |
ข้อกฎหมาย | : มาตรา 41 มาตรา 48 มาตรา 50 และมาตรา 56 แห่งประมวลรัษฎากร |
ข้อหารือ | บริษัทจัดตั้งขึ้นตามกฎหมายประเทศไทย ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับสิ่งทอ และมีการลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวข้องทั้งในประเทศไทย และในต่างประเทศ บริษัทได้แต่งตั้งให้ผู้บริหารหรือพนักงานไปดำรงตำแหน่งกรรมการในบริษัทลูกในต่างประเทศ โดยจะได้รับค่าตอบแทนเงินเดือน สวัสดิการต่าง ๆ จากหน้าที่งานของบริษัทในประเทศไทย โดยผ่านบัญชีเงินฝากของผู้บริหารหรือพนักงานในประเทศไทย และค่าตอบแทนจากการเป็นกรรมการในบริษัทลูกในต่างประเทศ ตามอัตราค่าตอบแทนเปรียบเทียบกับค่าตอบแทนในตำแหน่งเดียวกัน หรือเทียบเคียงของธุรกิจหรืออุตสาหกรรมประเภทเดียวกัน หรือให้เป็นไปตามข้อกำหนดในแต่ละประเทศ โดยบริษัทลูกในต่างประเทศจะจ่ายค่าตอบแทนให้แก่ผู้บริหารโดยตรง โดยผ่านบัญชีเงินฝากในต่างประเทศที่บริษัทลูกในต่างประเทศเปิดไว้ให้ บริษัทขอหารือ ดังนี้ 1. กรณีบริษัทจ่ายเงินเดือนหรือค่าตอบแทนเฉพาะที่เกิดจากหน้าที่งานของนายจ้างในประเทศไทย บริษัทมีหน้าที่นำเงินได้ที่ผู้บริหารหรือพนักงานได้รับเฉพาะที่จ่ายจากหน้าที่งานที่ทำให้นายจ้างในประเทศไทยมารวมคำนวณเป็นรายได้ เพื่อนำส่งภาษีหัก ณ ที่จ่าย ตามมาตรา 50 (1) แห่งประมวลรัษฎากร ใช่หรือไม่ 2. กรณีผู้บริหารหรือพนักงานที่ได้รับค่าตอบแทนจากการเป็นกรรมการในบริษัทลูกในต่างประเทศ และได้อยู่ในประเทศไทยในปีภาษีเดียวกันกับที่ได้รับเงินได้ค่าตอบแทนเกิน 180 วัน หากผู้บริหารหรือพนักงานคนดังกล่าว ไม่ได้นำเงินค่าตอบแทนที่ได้รับดังกล่าว เข้ามาในประเทศไทยในปีภาษีเดียวกัน ผู้บริหารคนดังกล่าวไม่มีหน้าที่ต้องเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาเนื่องจากหน้าที่งานที่ทำในต่างประเทศตามมาตรา 41 วรรคสอง แห่งประมวลรัษฎากร ใช่หรือไม่ |
แนววินิจฉัย | : 1. กรณีบริษัทจ่ายค่าตอบแทนจากการเป็นผู้บริหารหรือพนักงานในบริษัท โดยได้รับค่าตอบแทนเป็นเงินเดือน และสวัสดิการต่าง ๆ จากหน้าที่งานของบริษัทฯ ในประเทศไทย ผ่านบัญชีเงินฝากของผู้บริหารหรือพนักงานในประเทศไทย เงินได้ดังกล่าวเข้าลักษณะเงินได้พึงประเมินเนื่องจากหน้าที่งานที่ทำในประเทศไทยหรือเนื่องจากกิจการของนายจ้างในประเทศไทย ตามมาตรา 41 วรรคหนึ่ง แห่งประมวลรัษฎากร ผู้บริหารหรือพนักงานดังกล่าว มีหน้าที่ต้องนำมาคำนวณเพื่อเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ตามมาตรา 48 (1) และมาตรา 56 แห่งประมวลรัษฎากร และบริษัทซึ่งเป็นผู้จ่ายเงินได้ มีหน้าที่ต้องหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย ตามมาตรา 50 (1) แห่งประมวลรัษฎากร 2. กรณีบริษัทลูกในต่างประเทศจ่ายค่าตอบแทนจากการเป็นกรรมการในบริษัทลูกในต่างประเทศ ตามอัตราค่าตอบแทนโดยเปรียบเทียบกับค่าตอบแทนในตำแหน่งเดียวกันหรือเทียบเคียงกับธุรกิจหรืออุตสาหกรรมประเภทเดียวกัน ซึ่งเป็นไปตามข้อกำหนดในแต่ละประเทศ โดยบริษัทลูกในต่างประเทศจะจ่ายค่าตอบแทนให้แก่ผู้บริหารหรือพนักงานที่ปฏิบัติงานในต่างประเทศโดยตรง ผ่านบัญชีเงินฝากในต่างประเทศที่บริษัทลูกในต่างประเทศเปิดไว้ให้ หากการปฏิบัติงานในต่างประเทศดังกล่าวเป็นการปฏิบัติงานเพื่อประโยชน์ของบริษัทลูกในต่างประเทศ โดยไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการปฏิบัติงานในบริษัทและมิได้ทำเพื่อประโยชน์ของบริษัท ประกอบกับบริษัทไม่มีภาระต้องจ่ายค่าตอบแทนให้แก่ผู้บริหารหรือพนักงานที่ปฏิบัติงานในต่างประเทศ ค่าตอบแทนดังกล่าวถือเป็นเงินได้เนื่องจากหน้าที่งานในต่างประเทศ ตามมาตรา 41 วรรคสอง แห่งประมวลรัษฎากร หากผู้บริหารหรือพนักงานที่ปฏิบัติงานในต่างประเทศมิได้นำเงินได้นั้นเข้ามาในประเทศไทยในปีที่มีเงินได้ ผู้บริหารหรือพนักงานที่ปฏิบัติงานในต่างประเทศไม่มีหน้าที่ต้องนำเงินได้ดังกล่าวมาเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาแต่อย่างใด |