info@prosofterp.com
Prosoft Asset Management
081-359-6934
Prosoft WINSpeed Cloud
081-359-6933
Menu
Home
Product
Prosoft WINSpeed Cloud
Prosoft iERP Asset
Feature
Promotion
News & Promotion
E-Newsletter
Promotion
Event
บทความที่น่าสนใจ
Blog
กฎหมาย/ภาษี
การเงินการบัญชี
เกร็ดความรู้ภาษีต่างๆ
ข้อหารือภาษีอากร
กิจการ/อื่นๆ
Services
จองอบรม Online
FAQs
คู่มือการใช้งาน
บริการ Maintenance
วิธีการชำระเงิน
Manual
Prosoft Assets Management
Prosoft WINSpeed Cloud
Help
System Requirement
Guidelines
About Us
About Us
Personal Data Protection Act
Contact Us
ทดลองใช้งานฟรี
หน้าแรก
Blog
กฎหมาย/ภาษี
ภาระภาษีจาการรับเงินปันผลและจาการขายหุ้น
ภาระภาษีจาการรับเงินปันผลและจาการขายหุ้น
ย้อนกลับ
หมวดหมู่บทความ
กฎหมาย/ภาษี
การเงินการบัญชี
เกร็ดความรู้ภาษีต่างๆ
ข้อหารือภาษีอากร
กิจการ/อื่นๆ
หน้าแรก
Blog
กฎหมาย/ภาษี
ภาระภาษีจาการรับเงินปันผลและจาการขายหุ้น
ภาระภาษีจาการรับเงินปันผลและจาการขายหุ้น
ย้อนกลับ
เศรษฐกิจในช่วงที่กระดานหุ้นลงทุนมีทางเลือกที่ไม่มากนักสำหรับผลประโยชน์ที่ได้รับจากการลุงทุนทางการเงิน หากซื้อมาถูกมีโอกาสขายได้กำไร ก็เลือกที่จะขาย แต่หากขายไม่ได้กำไรส่วนต่าง ก็ต้องยอมที่จะถือหุ้นตัวนั้นๆ ต่อไป ไม่แน่ว่าเงินปันผลอาจจะได้มากกว่าที่จะได้จากการขายทิ้ง แต่ที่แน่นอนกว่า ก็คือ ภาระภาษีที่เกิดขึ้นจากประโยชน์ทั้งสองรูปแบบนั่นเอง
ภาระภาษีจากการรัเงินปันผล
เงินปันผลที่นักลงทุนได้รับจากการถือหุ้นในบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลเป็นเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40(4)(ข) แห่งประมวลรัษฎากร ซึ่งจะต้องเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา หากนักลงทุนเป็นผู้มีหน้าที่เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ซึ่งบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลผู้จ่ายเงินปันผลจะหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย จากเงินปันผลนั้นไม่ว่าจะเป็นจำนวนเงินมากน้อยเพียงใด ในอัตราร้อยละ 10.0 ในการคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดานักลงทุนจึงสามารถเลือกวิธีการคำนวณภาษีจากเงินปันผลที่ได้รับแล้วแต่กรณี
หากเป็นกรณีเงินปันผลที่ได้รับจากบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่เสียภาษีเงินได้นิติบุคคลตามมาตรา 47 ทวิ แห่งประมวลรัษฎากร โดยสามารถคำนวณหาเครดิตภาษีได้จากการนำอัตราภาษีเงินได้ที่บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลผู้จ่ายเงินปันผลนั้นต้องเสีย หารด้วยผลต่างของหนึ่งร้อย ลบด้วยอัตราภาษีเงินได้ของบริษัทของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลนั้น ได้ผลลัพธ์เท่าใดคูณด้วยจำนวนเงินปันผลที่ได้รับ ก็จะเป็นเครดิตในการคำนวณภาษีที่คำนวณได้มารวมกับเงินปันผลเพื่อคำนวณเป็นเงินได้พึงประเมินที่ต้องเสียภาษีเงินได้ (หากท่านงง...ดูคำอธิบายการกรอกแบบ ภ.ง.ด.90...คลิก)
สำหรับการคำนวณภาษีนั้น นักลงทุนจะต้องนำเงินปันผลรวมกับเครดิตภาษีแสดงรายการในแบบ ภ.ง.ด. 90 แล้วคำนวณภาษีตามเกณฑ์ที่กำหนดในมาตรา 48 ได้จำนวนภาษีเท่าใด ให้นำเครติดภาษีที่คำนวณได้หักออกจากภาษีที่ต้องเสีย ถ้ายังขาด ให้ผู้มีเงินได้เสียภาษีสำหรับจำนวนที่ขาด หรือหากคำนวณได้เกิน ก็มีสิทธิได้รับเงินจำนวนที่เหลือนั้นคืน และหากเป็นกรณีจำนวนเงินปันผลรวมเครดิตภาษีนั้นมีจำนวนตั้งแต่ 60,000 บาทขึ้นไป นักลงทุนจะต้องคำนวณภาษีเงินได้ให้เสียไม่น้อยกว่าร้อยละ 0.5 ของยอดเงินได้พึงประเมินด้วย ตามมาตรา 48(2) แห่งประมวลรัษฎากร
อย่างไรก็ดี ในกรณีที่นักลงทุนมีเงินปันผลที่ได้รับเครดิตภาษีหลายรายการ การเลือกเสียภาษีสำหรับเงินปันผลที่ได้รับโอนนำไปรวมกับเงินได้อื่นเพื่อเสียภาษีนั้น กรมสรรพากรวางแนววินิจฉัยไว้ชัดเจนว่า การเลือกเงินปันผลไปรวมกับเงินได้อื่นเพื่อคำนวณภาษีจะต้องเลือกทุกรายการ นักลงทุนไม่มีสิทธิเลือกเฉพาะบางรายการที่ตนเองได้ประโยชน์เท่านั้น
แต่หากนักลงทุนเห็นว่า การนำเงินปันผลมารวมกับเงินได้อื่นเพื่อคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาประจำปีภาษีที่ได้รับเงินปันผลนั้น จะเป็นผลทำให้ตนเองต้องเสียภาษีเงินได้รับไปรวมคำนวณภาษีกับเงินได้อื่นๆ ที่เกิดขึ้นในปีภาษีนั้นก็ได้ ตามมาตรา 48(3) แห่งประมวลรัษฎากร นั่นก็คือไม่นำเงินปันผลนั้นมาแสดงในแบบแสดงรายการ ภ.ง.ด. 90 เลยก็ได้ โดยจะถือว่านักลงทุนผู้นั้นได้เสียภาษีเงินได้ไว้ในอัตราร้อยละ 10.0 แล้ว
ภาระภาษีจากการขายหุ้น
ในการลงทุนนั้น นอกจากการได้รับเงินปันผลจากกิจการที่ตนเองเป็นผู้ถือหุ้นแล้ว ผลตอบแทนอีกประการหนึ่งสำหรับนักลงทุนคือการแสวงหากำไรจากการขายหลักทรัพย์หรือกำไรส่วนต่างราคาจากการซื้อขายหลักทรัพย์เมื่อมีการขายหุ้นที่ถือนั้นออกไป
กำไรส่วนต่างราคาจากการซื้อ ขายหลักทรัพย์ ประมวลรัษฎากรกำหนดว่าเป็นผลประโยชน์ที่ได้จากการโอนหุ้น หุ้นกู้ พันธบัตร หรือตั๋วเงิน เฉพาะซึ่งตีราคาเป็นเงินได้เกินกว่าที่ลงทุนถือเป็นเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40(4)(ช) แห่งประมวลรัษฎากร เมื่อนักลงทุนขายหุ้นออกไปแล้วได้รับผลประโยชน์จากการโอนหุ้นเกินกว่าที่ลงทุน ผู้จ่ายเงินได้จะต้องหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย ในอัตราร้อยละ 15.0 ตามมาตรา 50(2)(ข) แห่งประมวลรัษฎากร และนักลงทุนจะเลือกนำเงินได้ดังกล่าวไปรวมกับเงินได้อื่นเพื่อเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาประจำปีภาษีหรือไม่ก็ได้
อย่างไรก็ดี หากเป็นการขายหลักทรัพย์หรือหุ้นของบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย นักลงทุนที่เป็นบุคคลธรรมดาจะได้รับยกเว้นสำหรับเงินได้ที่ได้รับจากการขายหลักทรัพย์ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ตามกฎกระทรวง ฉบับที่ 126 (พ.ศ. 2509) ข้อ 2 (23) ซึ่งเมื่อเป็นเงินได้รับยกเว้นภาษีแล้ว ผู้มีเงินได้ก็ไม่ต้องถูกหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย ตามมาตรา 50(2)(ข) แห่งประมวลรัษฎากร แต่อย่างใด
ข
อบคุณบทความจาก ::
สรรพากรสาส์น
ประกาศบทความโดย ::
www.prosofterp.com
244
ผู้เข้าชม
สมัครรับข่าวสาร
Get started for free today.
ทดลองใช้งาน
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ (Cookies) เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น
นโยบายคุกกี้
ตั้งค่าคุกกี้
ยอมรับทั้งหมด
×
ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว
คุกกี้พื้นฐานที่จำเป็น
เปิดใช้งานตลอดเวลา
คุกกี้พื้นฐานที่จำเป็น เพื่อช่วยให้การทำงานหลักของเว็บไซต์ใช้งานได้ รวมถึงการเข้าถึงพื้นที่ที่ปลอดภัยต่าง ๆ ของเว็บไซต์ หากไม่มีคุกกี้นี้เว็บไซต์จะไม่สามารถทำงานได้อย่างเหมาะสม และจะใช้งานได้โดยการตั้งค่าเริ่มต้น โดยไม่สามารถปิดการใช้งานได้
คุกกี้ในส่วนวิเคราะห์
คุกกี้ในส่วนวิเคราะห์ จะช่วยให้เว็บไซต์เข้าใจรูปแบบการใช้งานของผู้เข้าชมและจะช่วยปรับปรุงประสบการณ์การใช้งาน โดยการเก็บรวบรวมข้อมูลและรายงานผลการใช้งานของผู้ใช้งาน
คุกกี้ในส่วนการตลาด
คุกกี้ในส่วนการตลาด ใช้เพื่อติดตามพฤติกรรมผู้เข้าชมเว็บไซต์เพื่อแสดงโฆษณาที่เหมาะสมสำหรับผู้ใช้งานแต่ละรายและเพื่อเพิ่มประสิทธิผลการโฆษณาสำหรับผู้เผยแพร่และผู้โฆษณาสำหรับบุคคลที่สาม
สร้างเว็บไซต์สำเร็จรูปฟรี
By SoGoodWeb.com