1. อากรแสตมป์ กรณีการออกหุ้นกู้ในต่างประเทศ ธนาคารฯ เป็นสถาบันการเงินที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายของประเทศ A มีลูกค้าเป็นบริษัทที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายไทยที่ประสงค์จะออกหุ้นกู้สกุลเงินตราต่างประเทศ เช่น หุ้นกู้สกุลดอลลาร์สหรัฐ และหุ้นกู้สกุลเงินเยน เพื่อเสนอขายในประเทศ A การออกหุ้นกู้ดังกล่าวธนาคารฯ จะทำสัญญาต่าง ๆ กับผู้ออกหุ้นกู้ ดังนี้
1.1สัญญาการเป็นตัวแทนในการบริหารจัดการหุ้นกู้ ธนาคารฯ จะเลือกทำสัญญาแบบใดแบบหนึ่งดังต่อไปนี้ สำหรับการออกหุ้นกู้แต่ละครั้ง
1.1.1สัญญาการบริหารหุ้นกู้ (Agreement with Bond Administrator) ซึ่งธนาคารฯ จะรับดำเนินงานดังต่อไปนี้
ก.กระทำการเป็นผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ โดยธนาคารฯ จะทำหน้าที่คุ้มครองผลประโยชน์ของผู้ถือหุ้นกู้ ได้แก่ การดำเนินการใด ๆ เพื่อเรียกเก็บเงินต้นและดอกเบี้ยจากผู้ออกหุ้นกู้ เก็บและรักษาเอกสารหรือข้อตกลงที่เกี่ยวกับการค้ำประกัน เข้าร่วมประชุมกับผู้ถือหุ้นกู้เพื่อให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการบังคับชำระหนี้ รวมถึงจัดทำและรายงานข้อมูลใด ๆ ที่อาจมีผลกระทบต่อผลประโยชน์ของผู้ถือหุ้นกู้
ข. กระทำการเป็นตัวแทนของผู้ออกหุ้นกู้และผู้ค้ำประกันหุ้นกู้ เพื่อการชำระหนี้ให้แก่ผู้ถือหุ้นกู้ และดำเนินการต่าง ๆ ต่อศูนย์รับฝากหลักทรัพย์แห่งประเทศ A (AA) ในฐานะตัวแทนการออกหุ้นกู้และตัวแทนการจ่ายเงินตามหุ้นกู้ภายใต้กฎเกณฑ์ของ AA รวมถึงการคำนวณและยืนยันอัตราดอกเบี้ยหุ้นกู้ตามอัตราอ้างอิงต่าง ๆ เช่น อัตราดอกเบี้ยระหว่างธนาคารในตลาดลอนดอน (LIBOR) การดำเนินการต่าง ๆ เกี่ยวกับการซื้อและยกเลิกหุ้นกู้ การจัดการและแจ้งการแก้ไขเปลี่ยนแปลงข้อมูลและเงื่อนไขของหุ้นกู้ต่อนายทะเบียนของ AA และการให้คำปรึกษาแก่ผู้ออกหุ้นกู้ ทั้งนี้ ธนาคารฯ จะได้รับค่าตอบแทนสำหรับงานในส่วนของ ก. และ ข.
1.1.2สัญญาตัวแทนทางการเงิน (Fiscal Agency Agreement) ซึ่งธนาคารฯ จะให้บริการในฐานะตัวแทนการออกหุ้นกู้และตัวแทนการชำระหนี้ตามหุ้นกู้ภายใต้กฎเกณฑ์ของ AA รวมถึงการดำเนินการทางทะเบียนกับ AA การคำนวณและยืนยันอัตราดอกเบี้ยหุ้นกู้ การจ่ายเงินต้นและดอกเบี้ยตามเงื่อนไขหุ้นกู้ให้แก่ผู้ถือหุ้นกู้ การดำเนินการต่าง ๆ เกี่ยวกับการซื้อและยกเลิกหุ้นกู้ การจัดการและแจ้งการแก้ไขเปลี่ยนแปลงข้อมูลและเงื่อนไขของหุ้นกู้ต่อนายทะเบียนของ AA และการให้คำปรึกษาแก่ผู้ออกหุ้นกู้ โดยธนาคารฯ จะได้รับค่าตอบแทนจากการเป็นตัวแทนทางการเงินเพียงอย่างเดียว
1.2สัญญาการจองซื้อหุ้นกู้ออกใหม่ทั้งหมด (Bond Purchase Agreement) ซึ่งธนาคารฯ ตกลงจะซื้อหุ้นกู้ทั้งหมดที่ออกโดยผู้ออกหุ้นกู้
1.21.3สัญญาประกันการจ่ายหนี้หุ้นกู้ (Guarantee Entrustment Agreement) ซึ่งธนาคารฯ ตกลงที่จะร่วมรับผิดชอบกับผู้ออกหุ้นกู้ในการจ่ายเงินต้นและดอกเบี้ยหุ้นกู้ให้แก่ผู้ถือหุ้น โดยไม่มีการจำกัดจำนวน
2.เนื่องจากสัญญาดังกล่าวข้างต้นจะจัดทำขึ้นในต่างประเทศ ธนาคารฯ จึงขอหารือ ดังนี้
2.1ธนาคารฯ มีหน้าที่ต้องเสียอากรแสตมป์จากการทำสัญญาต่าง ๆ ดังกล่าว หรือไม่ อย่างไร
2.2กรณีที่ได้มีการทำตราสารที่ต้องเสียอากรแสตมป์ขึ้นในต่างประเทศ เช่น สัญญาแต่งตั้งตัวแทน และสัญญาค้ำประกันหนี้ตามหุ้นกู้ หากมีการนำสำเนาหรือสำเนาที่ได้รับการรับรองโดยสถานทูตไทยในประเทศญี่ปุ่นของตราสารดังกล่าวเข้ามาในประเทศไทย หรือมีการส่งภาพสำเนาตราสารดังกล่าวมาให้ผู้รับในประเทศไทยทางอีเมล จะถือว่าเป็นการนำตราสารที่ต้องเสียอากรแสตมป์เข้ามาในประเทศไทยตามมาตรา 111 แห่งประมวลรัษฎากร หรือไม่
2.3กรณีที่สัญญาการบริหารหุ้นกู้ (Agreement with Bond Administrator) สัญญาตัวแทนทางการเงิน (Fiscal Agency Agreement) และสัญญาประกันการจ่ายหนี้หุ้นกู้ (Guarantee Entrustment Agreement) ได้ทำขึ้นในต่างประเทศ และผู้ทรงตราสารคนแรกในประเทศไทยเสียอากรแสตมป์เมื่อพ้นกำหนด 90 วัน นับแต่วันครบกำหนด 30 วัน นับแต่วันที่ได้รับตราสารตามมาตรา 111 แห่งประมวลรัษฎากร ผู้ทรงตราสารจะต้องรับผิดเสียเงินเพิ่มอากร 5 เท่าของจำนวนอากรแสตมป์ที่ต้องเสียตามมาตรา 113 แห่งประมวลรัษฎากร และต้องระวางโทษปรับ 500 บาท ตามมาตรา 124 แห่งประมวลรัษฎากร ต่อตราสาร 1 ฉบับ ถูกต้อง หรือไม่
2.4กรณีที่มีการทำตราสารใด ๆ ที่ต้องเสียอากรแสตมป์ขึ้นในต่างประเทศ และธนาคารฯ ได้ส่งตราสารดังกล่าวมายังสำนักงานสาขาของธนาคารฯ ในประเทศไทย เพื่อที่จะให้สาขาส่งต่อไปยังผู้ออกหุ้นกู้ ถือว่าธนาคารฯ เป็นผู้ทรงตราสารคนแรกในประเทศไทยและมีหน้าที่เสียอากรแสตมป์ตามมาตรา 111 แห่งประมวลรัษฎากร หรือไม่
|