เลขที่หนังสือ | : 0702/พ./5434 |
วันที่ | : 10 กรกฎาคม 2561 |
เรื่อง | : ภาษีมูลค่าเพิ่ม กรณีการให้บริการรับจ้างทำการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมของหน่วยงาน |
ข้อกฎหมาย | : มาตรา 81 (1) (ฎ) แห่งประมวลรัษฎากร |
ข้อหารือ |
ภาษีมูลค่าเพิ่ม กรณีการให้บริการรับจ้างทำการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมของหน่วยงานภายในของมหาวิทยาลัยฯ 1. มหาวิทยาลัยฯ เป็นนิติบุคคลและมีฐานะเป็นหน่วยงานในกำกับของรัฐซึ่งไม่เป็นส่วนราชการตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบการบริหารราชการแผ่นดิน กฎหมายว่าด้วยระเบียบบริหารราชการกระทรวงศึกษาธิการ และกฎหมายว่าด้วยการปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม และไม่เป็นรัฐวิสาหกิจตามกฎหมายว่าด้วยวิธีการงบประมาณและกฎหมายอื่น และเป็นสถานศึกษาทางวิชาการและวิชาชีพชั้นสูง มีวัตถุประสงค์ในการสร้าง พัฒนา ประมวล และประยุกต์องค์ความรู้ทั้งมวล ดำเนินการให้มีการเรียนรู้ในองค์ความรู้จัดการศึกษา เผยแพร่ความรู้ ส่งเสริมและพัฒนาวิชาการและวิชาชีพชั้นสูง ทำงานวิจัย ให้บริการทางวิชาการและวิชาชีพแก่สังคม และทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรม การบริหารจัดการ ศาสนา ศีลธรรม ภูมิปัญญา วิทยาศาสตร์ วิทยาศาสตร์สุขภาพ เทคโนโลยี และสิ่งแวดล้อมตาม (สำนักงานฯ) ซึ่งเป็นหน่วยงานภายในของมหาวิทยาลัยฯ มีหน้าที่ในการรับจ้างทำการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมให้แก่หน่วยงานรัฐและเอกชน เพื่อให้การดำเนินงานตามหน้าที่รับผิดชอบเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและถูกต้อง มหาวิทยาลัยฯ จึงขอหารือดังนี้ 2.1 หากผู้ว่าจ้างให้สำนักงานฯ ทำการวิจัย เป็นเอกชนซึ่งไม่ใช่หน่วยงานของรัฐที่มีฐานะเป็นกระทรวง ทบวง กรม ไม่ใช่องค์กรของรัฐบาลตามกฎหมายว่าด้วยการจัดตั้งองค์การของรัฐบาล หรือไม่ใช่กิจการของรัฐตามกฎหมาย หรือไม่ใช่หน่วยงานทางธุรกิจที่ไม่ใช่นิติบุคคลที่รัฐบาลเป็นเจ้าของ ผู้ว่าจ้างดังกล่าวได้รับยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มหรือไม่ 2.2 หากผู้ว่าจ้างตาม 1. ไม่ได้รับยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม สำนักงานฯ มีหน้าที่เรียกเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มจากผู้ว่าจ้าง เพื่อนำส่งให้แก่กรมสรรพากรหรือไม่ อย่างไร 2.3 หากสำนักงานฯ มีหน้าที่ในการเรียกเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มจากผู้ว่าจ้างเพื่อนำส่งกรมสรรพากร สำนักงานฯ จะต้องดำเนินการโดยมีวิธีการและขั้นตอนอย่างไร |
แนววินิจฉัย |
สำนักงานฯ ซึ่งเป็นหน่วยงานภายในของมหาวิทยาลัยฯ มีการให้บริการรับจ้างทำการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมให้แก่หน่วยงานรัฐและเอกชน เนื่องจากมหาวิทยาลัยฯ เป็นสถานศึกษาที่จัดการศึกษาระดับอุดมศึกษา และเป็นหน่วยงานในกำกับของรัฐ จึงมีประเด็นเกี่ยวกับภาษีมูลค่าเพิ่มดังนี้ 1. กรณีหน่วยงานภายในของมหาวิทยาลัยฯ มีการให้บริการวิจัย หรือให้บริการทางวิชาการในสาขาวิทยาศาสตร์ ให้แก่หน่วยงานของรัฐ ที่มีฐานะเป็นกระทรวง ทบวง กรม หรือองค์กรของรัฐบาลตามกฎหมายว่าด้วยการจัดตั้งองค์การของรัฐบาล หรือกิจการของรัฐตามกฎหมาย หรือหน่วยงานทางธุรกิจที่ไม่ใช่นิติบุคคลที่รัฐบาลเป็นเจ้าของ การให้บริการดังกล่าวของมหาวิทยาลัยฯ จะได้รับยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มตามมาตรา 81 (1) (ฎ) แห่งประมวลรัษฎากร ประกอบกับประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ 12) เรื่อง กำหนดสาขาและลักษณะการประกอบกิจการ การให้บริการวิจัยหรือการให้บริการทางวิชาการ ตามมาตรา 81 (1) (ฎ) แห่งประมวลรัษฎากร ลงวันที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2535 2. กรณีหน่วยงานภายในของมหาวิทยาลัยฯ มีการให้บริการวิจัย หรือให้บริการทางวิชาการ ให้แก่หน่วยงานอื่นที่ไม่ใช่หน่วยงานของรัฐตาม 1. หากเป็นการให้บริการในทางธุรกิจหรือวิชาชีพ การให้บริการดังกล่าวของมหาวิทยาลัยฯ จะเข้าลักษณะเป็นการให้บริการที่อยู่ในบังคับต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มตามมาตรา 77/1 (10) และมาตรา 77/2 แห่งประมวลรัษฎากร และไม่เข้าหลักเกณฑ์ตามข้อ 2 ของประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ 12)ฯ ลงวันที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2535 จึงไม่ได้รับยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มตามมาตรา 81 (1) (ฎ) แห่งประมวลรัษฎากร และหากมหาวิทยาลัยฯ มีรายได้จากการให้บริการดังกล่าวเกินกว่าหนึ่งล้านแปดแสนบาทต่อปี มหาวิทยาลัยฯ มีหน้าที่ยื่นคำขอจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มภายในสามสิบวันนับแต่วันที่มูลค่าฐานภาษีในการประกอบกิจการเกินกว่ามูลค่าของฐานภาษีของกิจการขนาดย่อม ทั้งนี้ ตามมาตรา 85/1 แห่งประมวลรัษฎากร ประกอบกับพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการกำหนดมูลค่าของฐานภาษีของกิจการขนาดย่อมซึ่งได้รับยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ 432) พ.ศ. 2548 |
เลขตู้ | : 81/40727 |