เลขที่หนังสือ | : กค 0702/6601 |
วันที่ | : 9 สิงหาคม 2559 |
เรื่อง | : ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา กรณีการให้เงินทดรองจ่าย |
ข้อกฎหมาย | : มาตรา 39 แห่งประมวลรัษฎากร |
ข้อหารือ | ก (ก) ได้จัดทำโครงการ (โครงการฯ) เพื่อระดมทุนสนับสนุนการดำเนินงานของอาคาร ส.ธ. โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย เพื่อให้เป็นสถานที่ดูแลผู้สูงวัยแบบครบวงจร โดยโครงการฯ ดังกล่าว จะจัดให้มีการผลิตและจำหน่าย USB CARD พร้อมเสื้อยืดคอกลม เสื้อคอโปโล และกระเป๋า จำหน่ายตามช่องทางต่าง ๆ อย่างไรก็ดี เนื่องจาก ก ไม่ได้จัดสรรงบประมาณที่จะมารองรับการระดมทุนในรูปแบบดังกล่าว ซึ่งมีกระบวนการดำเนินงานหลายขั้นตอน จึงอนุมัติให้ โดยค (นาง ค) หนึ่งในคณะกรรมการจัดหาทุนโครงการฯ ได้รับอนุมัติจากสำนักงานจัดหารายได้ สภากาชาดไทย ให้เป็นผู้ดำเนินโครงการ "เพราะรัก" ในการจัดกิจกรรมเพื่อหารายได้สมทบโครงการ "กองทุน ส.ธ. เพื่อผู้สูงวัย" ดังกล่าวผู้ทดรองจ่ายเงินในการดำเนินโครงการดังกล่าว โดยใช้ทุนทรัพย์ของตนเองโดยได้รับอนุมัติให้ผลิตและจำหน่าย USB CARD บรรจุเพลงอัลบั้ม "เพราะรัก" พร้อมเสื้อยืดคอกลม เสื้อคอโปโล และกระเป๋า จำหน่ายตามช่องทางต่าง ๆ ซึ่งนางจินตนา ฯ ยินดีเป็นผู้ใช้เงินทุนทรัพย์ของตนเองสำรองจ่ายในการเพื่อผลิตและจัดทำสิ่งของเพื่อขึ้นจำหน่ายไปก่อน ซึ่งโดยไม่นำมาเข้าระบบการจัดซื้อจัดจ้างตามระเบียบของสภากาชาดไทย เนื่องจากสภากาชาดไทยไม่ได้จัดสรรงบประมาณที่จะมารองรับการระดมทุนในรูปแบบดังกล่าว ซึ่งมีกระบวนการต่าง ๆ ในการดำเนินงานหลายขั้นตอน ใน การเรียกเก็บเงินสำทดรองจ่ายของนาง ค คืนจาก ก นาง ค จะออกหลักฐานเรียกเก็บเงินทดรองจ่ายคืนเป็นงวดๆ ตามที่ได้ทดสำรองจ่ายไปจริง โดยจะทำหนังสือ พร้อมใบแจ้งหนี้ซึ่งต้องระบุโครงการ "ข" และหลักฐานการจ่ายเงินแนบ ซึ่ง ก จะจ่ายให้คืนเงินทดรองจ่ายให้นาง ค เท่าจำนวนเงินตามหลักฐานที่จ่ายไปจริง ตามการเบิกจ่ายจริง แต่มิได้เป็นเงินรายได้ของนางจินตนา ฯ และโดยนาง ค ไม่ได้รับค่าตอบแทนหรือผลประโยชน์ใดๆ เพิ่มเติมจากจำนวนเงินที่ได้ทดรองจ่ายและการดำเนินงานตามโครงการ ก จึงขอทราบว่า เงินทดรองจ่ายที่นาง ค ได้รับคืนจาก ก เท่ากับจำนวนที่ได้จ่ายไปจริง จะถือเป็นเงินได้พึงประเมินที่ต้องนำมารวมคำนวณเพื่อเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาหรือไม่ |
แนววินิจฉัย | หากโดยนาง ค ได้รับอนุมัติจากสำนักงานจัดหารายได้ สภากาชาดไทย ให้ได้ทดรองจ่ายเงินแทน ก และเรียกเก็บเงินดังกล่าวคืนเท่ากับจำนวนที่ได้จ่ายไปจริง โดยนาง ค ไม่ได้รับค่าตอบแทนหรือผลประโยชน์ใดๆ เพิ่มเติมจากจำนวนเงินที่ได้ทดรองจ่ายนั้น เงินทดรองจ่ายดังกล่าวจึงไม่เข้าลักษณะเป็นเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 39 แห่งประมวลรัษฎากร นาง ค จึงไม่ต้องนำเงินดังกล่าวมารวมคำนวณเพื่อเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาแต่อย่างใด |
เลขตู้ | : 79/40166 |