เลขที่หนังสือ | : 0702/10735 |
วันที่ | : 26 พฤศจิกายน 2558 |
เรื่อง | : ภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย กรณีเงินที่จ่ายให้กับพนักงานและลูกจ้างในพื้นที่เสี่ยงภัยชายแดนภาคใต้และพื้นที่ต่อเนื่อง |
ข้อกฎหมาย | : มาตรา 40 (1) แห่งประมวลรัษฎากร |
ข้อหารือ | 1.ธนาคารฯ มีกระทรวงการคลัง และกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินซึ่งมีฐานะเป็นองค์การของรัฐบาลเป็นผู้ถือหุ้นรวมกันเกินกว่าร้อยละห้าสิบของทุนจดทะเบียน มีผลให้ธนาคารฯ มีฐานะเป็นรัฐวิสาหกิจตามพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. 2502 ต่อมาธนาคารฯ ได้จดทะเบียนแปรสภาพเป็นนิติบุคคลประเภทบริษัทมหาชน จำกัด ตามพระราชบัญญัติบริษัทมหาชน จำกัด 2.คณะกรรมการธนาคารฯ ได้อนุมัติให้ธนาคารฯ ให้ความช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่เสี่ยงภัยจังหวัดชายแดนภาคใต้ ตามประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง กำหนดสำนักงานในเขตพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นสำนักงานพื้นที่พิเศษประจำปีงบประมาณ เพื่อจูงใจให้พนักงานปฏิบัติงานในพื้นที่เสี่ยงภัย ดังนี้ 2.1 ค่าเบี้ยเสี่ยงภัยรายเดือน จำนวน 7,000 บาท ต่อเดือน สำหรับพนักงานที่ปฏิบัติงานประจำในพื้นที่เสี่ยงภัย 2.2 ค่าเบี้ยเสี่ยงภัยรายวัน จำนวน 250 บาท ต่อวัน สำหรับพนักงานที่อยู่นอกพื้นที่แต่มาปฏิบัติงานในพื้นที่ดังกล่าว 2.3 เงินช่วยเหลือพิเศษ Self Insurance กรณีเสียชีวิต จำนวน 2,000,000 บาท 2.4 เงินปลอบขวัญกรณีเกิดเหตุร้ายแรงในพื้นที่ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ครั้งละไม่เกินจำนวน 7,000 บาท ต่อคน ปีละไม่เกิน 2 ครั้ง 3.ธนาคารฯ ขอทราบว่า เงินที่ธนาคารฯ ให้ความช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่เสี่ยงภัยจังหวัดชายแดนภาคใต้ตาม 2. ที่จ่ายให้กับพนักงานและลูกจ้างเป็นเงินได้พึงประเมินที่ได้รับยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาตามมาตรา 42 (17) แห่งประมวลรัษฎากร ประกอบกับข้อ 2 (86) แห่งกฎกระทรวง ฉบับที่ 126 (พ.ศ.2509) ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร หรือไม่ |
แนววินิจฉัย | กรณีตามข้อเท็จจริงคณะกรรมการธนาคารฯ ได้อนุมัติให้ธนาคารฯ จ่ายเงินค่าเบี้ยเสี่ยงภัยรายเดือนและเงินค่าเบี้ยเสี่ยงภัยรายวันให้แก่พนักงานและลูกจ้างที่ปฏิบัติงานในพื้นที่เสี่ยงภัยจังหวัดชายแดนภาคใต้และพื้นที่ต่อเนื่อง ตามประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง กำหนดสำนักงานในเขตพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นสำนักงานพื้นที่พิเศษประจำปีงบประมาณ เพื่อจูงใจให้พนักงานและลูกจ้างปฏิบัติงานในพื้นที่เสี่ยงภัย ดังนั้น เงินดังกล่าวเป็นเงินค่าตอบแทนเพิ่มขึ้นเป็นกรณีพิเศษ สำหรับพนักงานและลูกจ้างที่ปฏิบัติงานในพื้นที่เสี่ยงภัย เป็นเงินได้เนื่องจากการจ้างแรงงาน เข้าลักษณะเป็นเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40 (1) แห่งประมวลรัษฎากร แต่อย่างไรก็ตาม หากเงินค่าเบี้ยเสี่ยงภัยดังกล่าวเป็นเงินค่าตอบแทนพิเศษที่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในจังหวัดชายแดนภาคใต้ได้รับตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยบำเหน็จความชอบสำหรับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ. 2550 และเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่คณะรัฐมนตรีกำหนดเงินค่าตอบแทนพิเศษดังกล่าวย่อมได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาตามมาตรา 42 (17) แห่งประมวลรัษฎากร ประกอบกับข้อ 2 (86) แห่งกฎกระทรวง ฉบับที่ 126 (พ.ศ.2509)ฯ ธนาคารฯ ผู้จ่ายเงินจึงไม่มีหน้าที่หักภาษี ณ ที่จ่ายแต่อย่างใด กรณีเงินช่วยเหลือพิเศษ (เสียชีวิต) และเงินปลอบขวัญที่ธนาคารฯ เป็นผู้จ่ายจ่ายให้แก่พนักงานและลูกจ้างที่ปฏิบัติงานในพื้นที่เสี่ยงภัยจังหวัดชายแดนภาคใต้และพื้นที่ต่อเนื่อง เงินดังกล่าวเป็นเงินค่าตอบแทนเพิ่มเติมเป็นกรณีพิเศษสำหรับพนักงานและลูกจ้างที่ปฏิบัติงานในพื้นที่เสี่ยงภัย เป็นเงินได้เนื่องจากการจ้างแรงงาน เข้าลักษณะเป็นเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40 (1) แห่งประมวลรัษฎากร ซึ่งเงินดังกล่าวมิใช่เงินค่าตอบแทนพิเศษสำหรับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในจังหวัดชายแดนภาคใต้ได้รับตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยบำเหน็จความชอบสำหรับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ. 2550 และไม่มีกฎหมายใดกำหนดให้ผู้มีเงินได้ได้รับ |