เลขที่หนังสือ | : กค 0702/4756 |
วันที่ | : 8 กรกฎาคม 2557 |
เรื่อง | : อากรแสตมป์ |
ข้อกฎหมาย | : มาตรา 107 |
ข้อหารือ | ททบ. ได้รับอนุญาตเป็นผู้ให้บริการโครงข่ายโทรทัศน์ประเภทที่ใช้ความถี่ภาคพื้นดินในระบบดิจิทัลประเภทมาตรฐานความคมชัดสูง/ปกติ ททบ. ได้ทำสัญญาให้เช่าใช้บริการโครงข่ายโทรทัศน์ประเภทที่ใช้คลื่นความถี่ภาคพื้นดินในระบบดิจิทัล ประเภทมาตรฐานความคมชัดสูง/ปกติ กับบุคคลภายนอก โดยมีรายละเอียดของสัญญา สรุปได้ดังนี้ 1.ททบ. ให้บริการโครงข่ายแก่บริษัทเฉพาะการบีบอัดและผสมสัญญาณเพื่อให้สัญญาณโทรทัศน์แพร่ภาพออกอากาศในพื้นที่ตามเอกสารแนบท้ายสัญญาหมายเลข 1 โดย ททบ. มีหน้าที่ต้องรับผิดชอบและรับรองการให้บริการส่งสัญญาณ เพื่อให้สัญญาณโทรทัศน์ที่แพร่ภาพออกอากาศดังกล่าว ตามข้อกำหนดของ กสทช. หากมีความเสียหายเกิดขึ้นเฉพาะในส่วนของการออกอากาศ ททบ. จะเป็นผู้รับผิดชอบในความเสียหายที่เกิดขึ้น ตามข้อ 4.6 (ข้อ 2.6 เอกสารแนบ) 2.บริษัทจะจ่ายค่าใช้บริการตามระยะเวลาที่กำหนดไว้ในข้อ 2.1 ของสัญญานี้ให้กับ ททบ. เป็นรายเดือน เมื่อ ททบ. ได้ติดตั้งสถานีโครงข่ายครบตามเอกสารแนบท้ายสัญญาหมายเลข 2 ค่าใช้บริการนี้ยังไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม โดย ททบ. จะส่งใบเรียกเก็บค่าใช้บริการพร้อมภาษีมูลค่าเพิ่มแต่ละเดือนให้แก่บริษัทล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 30 วัน โดยบริษัทจะต้องชำระค่าใช้บริการล่วงหน้าก่อนใช้บริการตามที่กำหนดไว้ในใบเรียกเก็บค่าใช้บริการ ต่อฝ่ายการเงินและบัญชี ททบ. 3.หาก ททบ. พิจารณาแล้วเห็นว่า สัญญาณโทรทัศน์ที่แพร่ภาพผ่านบริการโครงข่ายของ ททบ. เกิดขัดข้อง ทำให้ไม่สามารถใช้การได้อย่างมีประสิทธิภาพ หรือด้วยเหตุอื่นนอกเหนือจากที่ระบุในสัญญาข้อ 4.2 ถึงข้อ 4.4 บริษัทอาจถือเป็นเหตุหักค่าใช้บริการที่บริษัทต้องชำระแก่ ททบ. ในงวดนั้นๆ ได้ โดยคิดคำนวณสูตรต่อไปนี้หากสัญญาณขัดข้องเป็นเวลานานติดต่อกันตั้งแต่ 30 นาทีขึ้นไปบริษัทมีสิทธิหักลดค่าใช้บริการ โดยคิดตามสัดส่วนจำนวนของเวลาที่ขัดข้อง เทียบกับค่าบริการโครงข่ายรายเดือนของแต่ละสถานี (ข้อ 4.7 เอกสารแนบ) 4.ในขณะทำสัญญานี้ บริษัทได้นำหลักประกันสัญญาเป็น .......................จำนวนเงิน ..........บาท (.............) มามอบให้แก่ ททบ. เพื่อเป็นหลักประกันการปฏิบัติตามสัญญา ททบ.ขอหารือว่า 1.สัญญาให้เช่าใช้บริการโครงข่ายโทรทัศน์ประเภทที่ใช้คลื่นความถี่ภาคพื้นดิน ในระบบดิจิทัล ประเภทมาตรฐานความคมชัดสูง/ปกติ เป็นตราสารที่ต้องเสียอากรแสตมป์หรือไม่เป็นจำนวนเท่า ใครเป็นผู้เสีย ใครเป็นผู้ขีดฆ่า 2.หนังสือค้ำประกันสัญญา สำหรับจำนวนเงินเกิน 10,000 บาท ขึ้นไป ต้องเสียอากรแสตมป์หรือไม่ เป็นจำนวนเงินเท่าใด ใครเป็นผู้เสีย ใครเป็นผู้ขีดฆ่า |
แนววินิจฉัย | 1.สัญญาให้บริการโครงข่ายโทรทัศน์ประเภทที่ใช้คลื่นความถี่ภาคพื้นดิน ในระบบดิจิทัล ประเภทมาตรฐานความคมชัดสูง/ปกติ ระหว่าง ททบ. (ผู้ให้บริการ) กับบริษัท (ผู้รับบริการ)มีข้อกำหนด ให้ ททบ. ต้องให้บริการโครงข่ายแก่บริษัทเพื่อให้สัญญาณโทรทัศน์แพร่ภาพออกอากาศในพื้นที่และมีหน้าที่ต้องรับผิดชอบและรับรองการให้บริการส่งสัญญาณ เพื่อให้สัญญาณโทรทัศน์ที่แพร่ภาพออกอากาศไปยังพื้นที่ต่าง ๆ ของประเทศ ดังกล่าว ตามข้อกำหนดของ กสทช. โดยบริษัทจะจ่ายค่าใช้บริการตามระยะเวลาที่กำหนดไว้ในสัญญาให้กับ ททบ.เป็นรายเดือน หากสัญญาณโทรทัศน์ที่แพร่ภาพผ่านบริการโครงข่ายเกิดขัดข้อง ทำให้ไม่สามารถใช้การได้อย่างมีประสิทธิภาพ ททบ. จะเป็นผู้รับผิดชอบในความเสียหายที่เกิดขึ้น จึงเป็นสัญญาที่คู่สัญญามุ่งประสงค์ถึงผลสำเร็จของงานเป็นสาระสำคัญ เข้าลักษณะเป็นสัญญาจ้างทำของ ตามมาตรา 587 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ สัญญาดังกล่าว จึงเป็นตราสารที่อยู่ในบังคับต้องปิดอากรแสตมป์ ตามลักษณะแห่งตราสาร 4 จ้างทำของ แห่งบัญชีอัตราอากรแสตมป์ ททบ. ต้องเสียค่าอากรแสตมป์ 1 บาท ต่อจำนวนเงินตามสัญญา 1,000 บาท หรือเศษของ 1,000 บาท แห่งสินจ้างที่กำหนดไว้ในสัญญา และมีหน้าที่ขีดฆ่าแสตมป์ด้วย 2.กรณีหนังสือค้ำประกันสัญญา สำหรับจำนวนเงินเกิน 10,000 บาท ขึ้นไปต้องเสียค่าอากรแสตมป์ 10 บาท ตามลักษณะแห่งตราสาร 17 ผู้ค้ำประกันเป็นผู้เสียอากร และขีดฆ่าแสตมป์ |
เลขตู้ | : 77/39147 |