เลขที่หนังสือ | : กค 0702/4086 |
วันที่ | : 17 มิถุนายน 2557 |
เรื่อง | : ภาษีเงินได้นิติบุคคลและภาษีมูลค่าเพิ่ม กรณีเงินค่าแรกเข้า เงินสมทบ และดอกผลจากกองทุนคุ้มครองผู้ลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Derivatives Investor Protection Fund : DIPF) |
ข้อกฎหมาย | : มาตรา 65 มาตรา 40(8) และมาตรา 77/1(8)(9)(10) |
ข้อหารือ | บริษัทฯ ได้หารือเกี่ยวกับภาษีเงินได้นิติบุคคลและภาษีมูลค่าเพิ่ม กรณีเงินค่าแรกเข้า เงินสมทบ และดอกผลจากกองทุน ค. (กองทุนฯ) โดยมีสาระสำคัญสรุปได้ว่า 1. บริษัทฯ โดยความเห็นชอบจากคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ได้จัดตั้งกองทุนฯ ขึ้น เพื่อคุ้มครองผู้ลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า 2. กองทุนฯ จะเรียกเก็บทรัพย์สินจากสมาชิกของกองทุนฯ ในรูปของเงินค่าแรกเข้าและเงินสมทบจากสมาชิกกองทุนฯ ตามหลักเกณฑ์และวิธีการตามที่กำหนดไว้ในข้อบังคับ โดยบริษัทฯ จะบันทึกบัญชีทรัพย์สินดังกล่าวเป็นเจ้าหนี้ของบริษัทฯ 3. การใช้และบริหารทรัพย์สินของกองทุนฯ จะต้องเป็นไปตามขั้นตอนและเงื่อนไขในข้อบังคับเท่านั้น และในกรณีที่มีการเลิกกองทุนฯ บริษัทฯ จะคืนทรัพย์สินของกองทุนฯ ให้แก่สมาชิกกองทุนฯ ตามสัดส่วนและเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในข้อบังคับ บริษัทฯ จึงขอหารือดังนี้ 1. กรณีเงินค่าแรกเข้าและเงินสมทบเข้ากองทุนฯ ที่บริษัทฯ เรียกเก็บจากสมาชิกกองทุนฯ ไม่ถือเป็นรายได้ของบริษัทฯ ในการคำนวณกำไรสุทธิเพื่อเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลและไม่ต้องนำมาคำนวณเป็นมูลค่าของฐานภาษีในการเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม ใช่หรือไม่ 2. กรณีบริษัทฯ บริหารจัดการทรัพย์สินที่สมาชิกกองทุนฯ นำส่งแก่กองทุนฯ จนเกิดดอกผลขึ้น ดอกผลดังกล่าวถือเป็นรายได้ของบริษัทฯ ซึ่งต้องนำมาคำนวณกำไรสุทธิเพื่อเสียภาษีเงินได้นิติบุคคล ใช่หรือไม่ 3. กรณีบริษัทฯ จ่ายดอกผลที่เกิดจากการบริหารจัดการทรัพย์สินคืนแก่สมาชิกกองทุนฯ บริษัทฯ สามารถนำมาถือเป็นรายจ่ายในการคำนวณกำไรสุทธิเพื่อเสียภาษีเงินได้นิติบุคคล และบริษัทฯ ไม่มีหน้าที่หักภาษี ณ ที่จ่าย ใช่หรือไม่ |
แนววินิจฉัย | 1. กรณีเงินค่าแรกเข้าและเงินสมทบเข้ากองทุนฯ ที่บริษัทฯ เรียกเก็บจากสมาชิกกองทุนฯ ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของทรัพย์สินของกองทุน ตามข้อบังคับของตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้าข้อ 1101.02 เนื่องจากบริษัทฯ มีเงื่อนไขไม่คืนทรัพย์สินดังกล่าวให้ในส่วนของสมาชิกที่สิ้นสภาพตามข้อบังคับ อีกทั้งบริษัทฯ สามารถนำทรัพย์สินดังกล่าวไปลงทุนได้ ตามข้อบังคับของตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า ข้อ 1105.03 เงินค่าแรกเข้าและเงินสมทบเข้ากองทุนฯ ดังกล่าว จึงมีลักษณะเป็นรายได้ของบริษัทฯ ต้องนำมารวมคำนวณกำไรสุทธิเพื่อเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลตามมาตรา 65 แห่งประมวลรัษฎากรในส่วนของภาษีมูลค่าเพิ่ม เงินค่าแรกเข้าและเงินสมทบเข้ากองทุนฯ ดังกล่าวมิใช่เป็นรายรับที่บริษัทฯ ได้รับหรือพึงได้รับจากการขายสินค้าหรือให้บริการตามมาตรา 77/1 (8) (9) และ (10) แห่งประมวลรัษฎากร บริษัทฯ จึงไม่ต้องนำมารวมคำนวณเป็นมูลค่าของฐานภาษีในการเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม 2. กรณีดอกผลซึ่งเกิดจากการที่บริษัทฯ บริหารจัดการทรัพย์สินที่สมาชิกกองทุนฯ นำส่งแก่กองทุนฯ ดอกผลดังกล่าวถือเป็นเงินได้ของบริษัทฯ ซึ่งต้องนำมารวมคำนวณกำไรสุทธิเพื่อเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลตามมาตรา 65 แห่งประมวลรัษฎากร 3. กรณีบริษัทฯ จ่ายดอกผลที่เกิดจากการบริหารจัดการทรัพย์สินคืนแก่สมาชิกกองทุนฯ บริษัทฯ สามารถนำดอกผลดังกล่าวมาถือเป็นรายจ่ายในการคำนวณกำไรสุทธิเพื่อเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลได้ตามมาตรา 65 แห่งประมวลรัษฎากร และการจ่ายดอกผลดังกล่าวเข้าลักษณะเป็นการจ่ายเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40(8) แห่งประมวลรัษฎากร บริษัทฯ ไม่มีหน้าที่หักภาษี ณ ที่จ่ายตามประมวลรัษฎากร แต่อย่างใด |
เลขตู้ | : 77/39120 |