เลขที่หนังสือ | : กค 0811/10257 |
วันที่ | : 10 กรกฎาคม 2541 |
เรื่อง | : ภาษีเงินได้นิติบุคคล ภาษีมูลค่าเพิ่ม และภาษีธุรกิจเฉพาะ กรณีการให้สินเชื่อของกองทุนสิ่งแวดล้อม |
ข้อกฎหมาย | : มาตรา 91/3, มาตรา 105 ทวิ, พระราชกฤษฎีกา (ฉบับที่ 316) พ.ศ. 2541, ประกาศอธิบดีกรมสรรพากร (ฉบับที่ 3) ลงวันที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2535 |
ข้อหารือ | : ตามที่พระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. 2535 หมวด 2 ว่าด้วยกองทุนสิ่งแวดล้อม ได้จัดตั้งกองทุนสิ่งแวดล้อมขึ้น ณ กระทรวงการคลังเพื่อเป็นมาตรการส่งเสริมการเงินเพื่อจูงใจให้มีการยอมรับที่จะปฏิบัติหน้าที่ในการรักษาคุณภาพและสิ่งแวดล้อม โดยมีคณะกรรมการกองทุนสิ่งแวดล้อม ทำหน้าที่บริหารจัดการกองทุนฯ มีปลัดกระทรวงวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อม เป็นประธานผู้แทนส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเป็นกรรมการและเลขาธิการสำนักนโยบายและแผนสิ่งแวดล้อม เป็นฝ่ายเลขานุการเนื่องด้วยวัตถุประสงค์ประการหนึ่งในการจัดตั้งกองทุนสิ่งแวดล้อม ตามมาตรา 23 (2)และ (3) แห่งพระราชบัญญัติดังกล่าว นั้น เพื่อให้ราชการส่วนท้องถิ่น รัฐวิสาหกิจหรือเอกชนกู้ยืมเงินกองทุนฯ เพื่อนำไปจัดให้มีระบบบำบัดอากาศเสีย ระบบบำบัดน้ำเสีย ระบบกำจัดของเสีย และเครื่องมือหรืออุปกรณ์ต่าง ๆ เพื่อแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับมลพิษ ปัจจุบันคณะกรรมการกองทุนฯ ได้มอบหมายให้บรรษัทเงินทุนอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน)เป็นผู้จัดการ กองทุนในเงินกองทุนที่จัดสรรให้ราชการส่วนท้องถิ่น รัฐวิสาหกิจหรือเอกชนกู้ยืม บทบาทหน้าที่ความรับผิดชอบของผู้จัดการกองทุนคือ จะเป็นผู้พิจารณา วิเคราะห์ความเป็นไปได้ของโครงการที่ขออนุมัติกู้ยืมเงินกองทุนทั้งในด้านการลงทุนและด้านวิชาการ และเป็นผู้ติดตามทวงถามและรับเงินที่ผู้กู้ชำระคืน พร้อมทั้งดอกเบี้ยส่งเข้ากองทุนสิ่งแวดล้อมคณะกรรมการกองทุนสิ่งแวดล้อมได้แต่งตั้งให้ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) เป็นผู้จัดการกองทุนในเงินกองทุนฯ ส่วนที่จัดสรรเงินกู้ให้ราชการส่วนท้องถิ่น รัฐวิสาหกิจและเอกชน ยกเว้นส่วนที่เป็นโรงงานอุตสาหกรรม และให้บรรษัทเงินทุนอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยเป็นผู้จัดการกองทุนในเงินกองทุนฯ ส่วนที่จัดสรรให้เอกชนกู้ ซึ่งขณะนี้การดำเนินงานในส่วนที่จะปล่อยให้มีการกู้เงินจากกองทุนสิ่งแวดล้อมอยู่ในขั้นตอนที่พร้อมจะเริ่มปฏิบัติงานได้แล้วจึงขอทราบว่า 1. กองทุนสิ่งแวดล้อม มีหน้าที่ต้องเสียภาษีเงินได้ ภาษีธุรกิจเฉพาะ และภาษีมูลค่าเพิ่มหรือไม่ 2. หากต้องเสีย (1) ใครเป็นผู้ดำเนินการขอเลขประจำตัวผู้เสียภาษี และยื่นรายการเพื่อเสียภาษี (2) ใครเป็นผู้ดำเนินการขอจดทะเบียนเป็นผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มและผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีธุรกิจเฉพาะ (3) ใครเป็นผู้ออกใบรับในการชำระเงินต้นและดอกเบี้ย (4) แบบฟอร์มเอกสารต่าง ๆ เช่น ใบเสร็จรับเงินรายงานต่าง ๆ มีรูปแบบอย่างไร |
แนววินิจฉัย | : 1. คณะกรรมการกองทุนซึ่งจัดตั้งโดยพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. 2535 ไม่อยู่ในบังคับต้องเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาแต่อย่างใดสำหรับการขอเลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากรในการปฏิบัติการตามประมวลรัษฎากร ขอ ให้ไปติดต่อ ณ สำนักงานภาษีสรรพากรพื้นที่ เพื่อกำหนดเลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากรต่อไป ตามข้อ 8 ของประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เรื่อง กำหนดให้ผู้จ่ายเงินได้ซึ่งมีหน้าที่หักภาษี ณ ที่จ่าย มีและใช้เลขประจำตัวในการปฏิบัติการตามประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ 3) ลงวันที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2539 2. ภาษีธุรกิจเฉพาะ การประกอบกิจการของกองทุนสิ่งแวดล้อมได้รับยกเว้นภาษีธุรกิจเฉพาะ ตามมาตรา 91/3 (7) แห่งประมวลรัษฎากร ประกอบกับมาตรา 3 (5) แห่งพระราชกฤษฎีกา ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการกำหนดกิจการที่ได้รับยกเว้นภาษีธุรกิจเฉพาะ (ฉบับที่ 316) พ.ศ. 2541 3. ภาษีมูลค่าเพิ่ม ถ้าคณะกรรมการกองทุนไม่ได้ดำเนินการขายสินค้า หรือให้บริการในทางธุรกิจหรือวิชาชีพอื่นใดอีก คณะกรรมการกองทุนจึงไม่มีหน้าที่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม และจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มแต่อย่างใด 4. สำหรับการออกใบรับเพื่อเป็นหลักฐานการรับชำระเงินต้นและดอกเบี้ยคณะกรรมการกองทุนเป็นผู้มีหน้าที่จัดทำหรือจะมอบอำนาจให้ผู้จัดการกองทุนเป็นผู้ดำเนินการแทนในส่วนที่ได้รับจัดสรรก็ได้ กรณีดังกล่าวกรมสรรพากรไม่ได้กำหนดรูปแบบของการออกหลักฐานดังกล่าวไว้แต่อย่างใด เพียงแต่กฎหมายได้กำหนดให้มีรายการอย่างน้อยตามมาตรา 105 ทวิ แห่งประมวลรัษฎากร |
เลขตู้ | : 61/26888 |