เลขที่หนังสือ | : กค 0702/3496 |
วันที่ | : 5 กรกฎาคม 2564 |
เรื่อง | : ภาษีธุรกิจเฉพาะ กรณีขอขยายกำหนดเวลาการยื่นแบบแสดงรายการภาษีธุรกิจเฉพาะ |
ข้อกฎหมาย | : มาตรา 91/2 (6) , พระราชกฤษฎีกา (ฉบับที่ 342)ฯ |
ข้อหารือ | นาง ส. ได้ยื่นคำร้องขอขยายกำหนดเวลาการยื่นแบบแสดงรายการภาษีธุรกิจเฉพาะ โดยมี ข้อเท็จจริงสรุปได้ ดังนี้ 1. เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2560 นาง ส. ได้จดทะเบียนสิทธิและนิติกรรม ณ สำนักงาน ที่ดินจังหวัด (สำนักงานฯ) ให้แก่นางสาว ข. ในราคา 700,000 บาท (ราคาประเมิน ทุนทรัพย์รวม 943,215 บาท) ทั้งนี้ เจ้าพนักงานที่ดิน ได้เรียกเก็บภาษีเงินได้ บุคคลธรรมดา จำนวน 22,161 บาท และอากรแสตมป์ จำนวน 4,722 บาท โดยไม่ได้ เรียกเก็บภาษีธุรกิจเฉพาะและรายได้ส่วนท้องถิ่นไว้แต่อย่างใด 2. ต่อมา สำนักงานฯ ได้มีหนังสือ แจ้งว่า สำนักงานฯ ได้มีการเรียกเก็บภาษีผิดพลาด คลาดเคลื่อน โดยที่ถูกต้อง คือ นาง ส. ต้องถูกเรียกเก็บภาษีธุรกิจเฉพาะและรายได้ ส่วนท้องถิ่น รวมเป็นจำนวน 31,127 บาท และไม่มีภาระอากรแสตมป์แต่อย่างใด 3. จากคำให้การของ นาง ส. ต่อสำนักงานสรรพากรพื้นที่ ปรากฏข้อเท็จจริงว่า นาง ส. ได้รับความยินยอมจากนาย ท. บิดาของ นาง ส. ซึ่งเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์เดิมในที่ดิน ข้างต้นให้ก่อสร้างบ้านพักอาศัยในที่ดินดังกล่าวได้ โดยนาง ส. มีชื่อในทะเบียนบ้านหลัง ดังกล่าวตั้งแต่วันที่ 12 ตุลาคม 2531 เป็นต้นมา และต่อมาเมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2560 นาง ส. ได้รับโอนกรรมสิทธิ์ในที่ดินนั้นจากนาย ท. |
แนววินิจฉัย | 1. ตามข้อเท็จจริง กรณี นาง ส. ได้ขายที่ดิน พร้อมสิ่งปลูกสร้าง กล่าวคือ บ้านพักอาศัย ซึ่งตนมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านตามกฎหมายว่าด้วยการทะเบียนราษฎรตั้งแต่วันที่ 12 ตุลาคม 2531 เป็นต้นมา แต่ได้รับกรรมสิทธิ์ในที่ดินนั้นมาเมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2560 ให้แก่นางสาว ข. ซึ่งได้มีการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมการขายอสังหาริมทรัพย์ ดังกล่าว ณ สำนักงานที่ดิน นั้น ไม่เข้าลักษณะเป็นการขายอสังหาริมทรัพย์ที่ใช้เป็น สถานที่อยู่อาศัยอันเป็นแหล่งสำคัญที่ นาง ส. (ผู้ขาย) มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน ตามกฎหมายว่าด้วยการทะเบียนราษฎรเป็นเวลาไม่น้อยกว่าหนึ่งปีนับแต่วันที่ได้รับมาซึ่ง อสังหาริมทรัพย์นั้น ตามมาตรา 91/2 (6) แห่งประมวลรัษฎากร ประกอบกับมาตรา 4 (6) (ค) แห่งพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการขาย อสังหาริมทรัพย์ทางการค้าหรือหากำไร (ฉบับที่ 342) พ.ศ. 2541 แม้ นาง ส.จะมีชื่อใน ทะเบียนบ้านตามกฎหมายว่าด้วยการทะเบียนราษฎร ตั้งแต่วันที่ 12 ตุลาคม 2531 เป็นต้นมา ก็ตาม แต่พึ่งได้รับกรรมสิทธิ์ในที่ดินที่ขายนั้นมาเมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2560 และก็ได้ขายที่ดินดังกล่าวให้แก่นางสาว ข. เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2560 จึงเป็น การขายอสังหาริมทรัพย์ที่ใช้เป็นสถานที่อยู่อาศัยอันเป็นแหล่งสำคัญที่นาง ส. (ผู้ขาย) มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านตามกฎหมายว่าด้วยการทะเบียนราษฎรเป็นเวลาน้อยกว่าหนึ่งปี นับแต่วันที่ได้รับมาซึ่งอสังหาริมทรัพย์ (วันที่ 27 มีนาคม 2560) ดังนั้น การขายดังกล่าว จึงเข้าลักษณะเป็นการขายอสังหาริมทรัพย์ที่ได้กระทำภายในห้าปีนับแต่วันที่ได้มา ซึ่งอสังหาริมทรัพย์นั้นตามมาตรา 91/2 (6) แห่งประมวลรัษฎากร ประกอบกับมาตรา 4 (6) แห่งพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ 342) พ.ศ. 2541 ซึ่งอยู่ในบังคับต้องเสียภาษี ธุรกิจเฉพาะ 2. การที่นาง ส. ไม่ได้ชำระภาษีธุรกิจเฉพาะ ณ ขณะที่จดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมในวันที่ 20 พฤศจิกายน 2560 เนื่องจากเจ้าพนักงานที่ดินจังหวัด ไม่ได้เรียกเก็บภาษีธุรกิจเฉพาะ ดังนั้น เพื่อความเป็นธรรมและเพื่อบรรเทาภาระแก่ผู้มีหน้าที่เสียภาษีที่จะต้องชำระ เบี้ยปรับและเงินเพิ่ม จึงอนุมัติ ให้ขยายกำหนดเวลาการยื่นแบบแสดงรายการภาษี ธุรกิจเฉพาะ (ภ.ธ.40) ออกไป โดยให้ชำระภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ได้รับหนังสือแจ้งให้ ชำระภาษีจากกรมสรรพากร ทั้งนี้ ตามมาตรา 3 อัฏฐ วรรคหนึ่ง แห่งประมวลรัษฎากร โดยให้งดเบี้ยปรับ ค่าปรับอาญา แต่ยังคงต้องเสียเงินเพิ่มในอัตราร้อยละ 0.75 ต่อเดือน หรือเศษของเดือนตามมาตรา 89/1 วรรคสอง และมาตรา 91/21 (6) แห่งประมวล รัษฎากร ในส่วนของอากรแสตมป์ที่ได้ชำระไว้โดยไม่มีหน้าที่ต้องเสียนั้น ให้ยื่นคำร้อง ขอคืนได้ภายใน 10 ปี นับแต่วันที่ได้ชำระ |
เลขตู้ | : 84/51215 |