เลขที่หนังสือ | : กค 0706(กม.01)/1023 |
วันที่ | : 8 ธันวาคม 2547 |
เรื่อง | : ภาษีเงินได้ ภาษีธุรกิจเฉพาะ และอากรแสตมป์ กรณีอายุความขอคืนภาษี |
ข้อกฎหมาย | : มาตรา 27 ตรี มาตรา 50(5) มาตรา 63 แห่งประมวลรัษฎากร |
ข้อหารือ | : ตามประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เรื่อง กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขการยกเว้นภาษีเงินได้ ภาษีธุรกิจเฉพาะ และอากรแสตมป์ สำหรับจำนวนเงินที่ได้รับจากการโอนอสังหาริมทรัพย์ของลูกหนี้ของสถาบันการเงินที่นำมาจำนองเป็นประกันหนี้ของเจ้าหนี้ที่เป็นสถาบันการเงินให้แก่ผู้อื่นซึ่งมิใช่เจ้าหนี้ที่เป็นสถาบันการเงิน เพื่อนำไปชำระหนี้ที่ค้างชำระแก่เจ้าหนี้ที่เป็นสถาบันการเงิน ซึ่งได้ดำเนินการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ตามหลักเกณฑ์การปรับปรุงโครงสร้างหนี้ของสถาบันการเงินที่ธนาคารแห่งประเทศไทยประกาศกำหนด ลงวันที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2543ในการขอรับสิทธิประโยชน์เพื่อขอยกเว้นภาษีอากรดังกล่าว ลูกหนี้ของสถาบันการเงินหรือผู้ค้ำประกันของลูกหนี้ของสถาบันการเงิน เจ้าหนี้ที่เป็นสถาบันการเงิน และผู้รับโอนอสังหาริมทรัพย์ จะต้องร่วมกันจัดทำหนังสือรับรองการโอนอสังหาริมทรัพย์ เพื่อแจ้งและส่งมอบต่อเจ้าพนักงานที่ดินในขณะจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรม และแจ้งต่ออธิ ดีกรมสรรพากร โดยส่งมอบหนังสือรับรองการโอนอสังหาริมทรัพย์ผ่านสรรพากรพื้นที่ ในท้องที่ที่ลูกหนี้ของสถาบันการเงินหรือผู้ค้ำประกันของลูกหนี้ของสถาบันการเงินมีภูมิลำเนาหรือสถานประกอบการตั้งอยู่หรือในท้องที่ที่อสังหาริมทรัพย์ที่โอนตั้งอยู่ แต่ถ้าลูกหนี้ของสถาบันการเงินหรือผู้ค้ำประกันของลูกหนี้ของสถาบันการเงินมีความประสงค์จะชำระภาษีอากรไปก่อนในขณะจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมแล้วขอคืนภาษีอากรในภายหลังก็ไม่ต้องแจ้งต่อเจ้าพนักงานที่ดินแต่ต้องแจ้งต่ออธิบดีกรมสรรพากร ซึ่งในการชำระภาษีอากรไปก่อนแล้วขอคืนในภายหลังนั้น มีระยะเวลาเท่าใด และเริ่มนับเวลาตั้งแต่เมื่อใด |
แนววินิจฉัย | : 1. ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา 1.1 กรณีผู้โอนอสังหาริมทรัพย์ซึ่งได้เสียภาษีโดยถูกหักภาษี ณ ที่จ่ายตามมาตรา 50(5)แห่งประมวลรัษฎากร สำหรับการโอนอสังหาริมทรัพย์ซึ่งได้รับยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ผู้โอนจะต้องยื่นคำร้องขอคืนภาษีภายใน 3 ปีนับแต่วันสุดท้ายแห่งกำหนดเวลายื่นรายการภาษีตามมาตรา 27 ตรีแห่งประมวลรัษฎากร 1.2 กรณีผู้โอนอสังหาริมทรัพย์ซึ่งได้เสียภาษีโดยถูกหักภาษี ณ ที่จ่าย ตามมาตรา 50(5)แห่งประมวลรัษฎากร สำหรับการโอนอสังหาริมทรัพย์ที่ไม่มีหน้าที่ต้องเสียให้ยื่นคำร้องขอคืนภายใน 3 ปีนับแต่วันสุดท้ายแห่งกำหนดเวลายื่นรายการตามที่กฎหมายกำหนด ตามมาตรา 27 ตรี แห่งประมวลรัษฎากร และต้องเป็นกรณีที่ไม่มีบทบัญญัติไว้เป็นอย่างอื่น 2. ภาษีเงินได้นิติบุคคล 2.1 กรณีผู้โอนอสังหาริมทรัพย์ซึ่งได้ถูกหักภาษีเงินได้ไว้ ณ ที่จ่ายตามมาตรา 69 ตรีแห่งประมวลรัษฎากร ในอัตราร้อยละ 1 แล้วนำส่งพนักงานเจ้าหน้าที่ผู้รับจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมในขณะที่มีการจดทะเบียน เกินกว่าที่ควรต้องเสียภาษีหรือที่ไม่มีหน้าที่ต้องเสีย บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลต้องยื่นคำร้องขอคืนภายใน 3 ปี นับแต่วันสุดท้ายแห่งกำหนดเวลายื่นรายการภาษีตามที่กฎหมายกำหนดตามมาตรา 27 ตรี แห่งประมวลรัษฎากร 2.2 กรณีบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลหรือนิติบุคคลอื่นได้ถูกหักภาษี ณ ที่จ่าย ตามมาตรา3 เตรส แห่งประมวลรัษฎากร จะต้องยื่นคำร้องขอคืนภาษีภายใน 3 ปี นับแต่วันสุดท้ายแห่งปีที่ถูกหักภาษีเกินไปตามมาตรา 63 แห่งประมวลรัษฎากร 3. ภาษีธุรกิจเฉพาะ กรณีผู้โอนอสังหาริมทรัพย์ได้ยื่นแบบแสดงรายการภาษีธุรกิจเฉพาะ(ภ.ธ.40) ไว้แล้ว เป็นการเสียภาษีโดยไม่มีหน้าที่ต้องเสีย จึงมีสิทธิยื่นคำร้องขอคืนภาษี (แบบ ค.10)ต่อกรมสรรพากรภายใน 3 ปี นับแต่วันสุดท้ายแห่งกำหนดเวลายื่นรายการภาษี ตามที่กฎหมายกำหนดตามมาตรา 27 ตรี แห่งประมวลรัษฎากร 4. อากรแสตมป์ กรณีการโอนอสังหาริมทรัพย์ได้มีการเสียอากรแสตมป์ไปแล้วสำหรับใบรับจากการโอนอสังหาริมทรัพย์ที่ได้รับยกเว้นอากรแสตมป์ จึงเป็นการเสียอากรแสตมป์โดยไม่มีหน้าที่ต้องเสีย จึงมีสิทธิขอคืนค่าอากรได้ภายใน 10 ปี นับแต่วันเสียค่าอากรแสตมป์ตามมาตรา 193/30 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ |
เลขตู้ | : 67 33230 |