เลขที่หนังสือ | : กค 0811/12587 |
วันที่ | : 25 สิงหาคม 2541 |
เรื่อง | : อากรแสตมป์ กรณีส่วนราชการเป็นผู้ทำสัญญาให้กู้ยืม |
ข้อกฎหมาย | : มาตรา 104, มาตรา 121 |
ข้อหารือ | : หน่วยงานราชการได้ให้ประชาชนกู้ยืมเงินจากเงินทุนหมุนเวียนประเภทต่าง ๆ ดังต่อไปนี้ 1. เงินทุนประชาศึกษาสงเคราะห์ (ทปศ.1) เป็นเงินทุนหมุนเวียนที่ให้ประชาชนที่ประสบความทุกข์ยากเดือดร้อน ไม่มีเงินทุนที่จะใช้จ่ายในการศึกษาของบุตรหลาน กู้ยืมไปเป็นทุนในการศึกษาโดยผ่อนชำระคืนเงินกู้ให้แก่ทางราชการภายในกำหนด 5 ปี โดยไม่เสียดอกเบี้ย 2. เงินทุนประชาเศรษฐกิจสงเคราะห์ (ทปศ.2) เป็นเงินทุนหมุนเวียนที่ให้ประชาชนที่ประสบความทุกข์ยากเดือดร้อน มีรายได้น้อย ไม่มีทุนเพียงพอ หรือขยายอาชีพทางเกษตรกรรม พณิชยการรม หรืออาชีพอื่น ๆที่คณะกรรมการเห็นสมควรหรือมีหนี้สินในการประกอบอาชีพกู้ยืมไปเป็นทุนในการประกอบอาชีพหรือปลดเปลื้องหนี้สิน โดยผ่อนชำระคืนเงินกู้ให้แก่ทางราชการภายในกำหนด 5 ปี โดยไม่เสียดอกเบี้ย 3. เงินทุนเศรษฐกิจสงเคราะห์ (ทปศ.3) เป็นเงินทุนหมุนเวียนที่ส่งเสริมสนับสนุนให้ประชาชนที่ประสบความทุกข์ยาก เดือดร้อน อัตคัตขาดทุนทรัพย์ในการประกอบอาชีพ ให้กู้ยืมไปเป็นทุนประกอบอาชีพโดยผ่อนชำระคืนเงินกู้ให้แก่ทางราชการภายในกำหนด 5 ปี โดยไม่เสียดอกเบี้ย 4. เงินทุนหมุนเวียนส่งเสริมอาชีพสตรี เป็นเงินทุนหมุนเวียนที่ให้เยาวสตรีที่ได้รับการฝึกอบรมวิชาชีพเพื่อป้องกันไม่ให้เยาวสตรีไปประกอบอาชีพที่ไม่เหมาะสมและสตรีชนบทที่ได้รับการฝึกอาชีพตามโครงการสร้างชีวิตใหม่ให้สตรีในชนบทมีอาชีพ และรายได้พอควรอยู่ในท้องถิ่นกับครอบครัวของตนเองอย่างผาสุกได้กู้ยืมเงินไปลงทุนประกอบอาชีพที่ได้รับการฝึกอบรมโดยผ่อนชำระคืนภายในกำหนด 6 ทเดือนโดยไม่เสียดอกเบี้ย 5. เงินกองทุนฟื้นฟูสมรรถภาพคนพิการ เป็นเงินทุนหมุนเวียนสำหรับใช้จ่ายเกี่ยวกับการดำเนินงานและสงเคราะห์ช่วยเหลือคนพิการเป็นทุนหมุนเวียนสำหรับคนพิการกู้ยืมไปประกอบอาชีพเพื่อไม่ให้เป็นภาระแก่สังคมและทางราชการต่อไปโดยผ่อนชำระคืนภายในกำหนด 5 ปี โดยไม่เสียดอกเบี้ยการให้กู้ยืมดังกล่าว ถือเป็นการให้บริการของรัฐในด้านสวัสดิการสังคมและสังคมสงเคราะห์ช่วยเหลือประชาชนกลุ่มเป้าหมาย ตามนโยบายของรัฐบาลและการให้กู้ยืมดังกล่าวได้จัดให้บุคคลภายนอกค้ำประกันเงินกู้ด้วย จึงขอทราบว่าสัญญากู้ยืมที่หน่วยงานราชการ เป็นผู้ให้กู้แก่ประชาชนและสัญญาค้ำประกันเงินกู้ดังกล่าวต้องเสียอากรแสตมป์หรือไม่ |
แนววินิจฉัย | : 1. สัญญากู้ยืมเงิน เข้าลักษณะแห่งตราสาร 5. แห่งบัญชีอัตราอากรแสตมป์ ตามประมวลรัษฎากร ผู้ให้กู้เป็นผู้มีหน้าที่เสียอากร แต่เนื่องจากตามข้อเท็จจริง ผู้ให้กู้ได้แก่ หน่วยงานราชการ ซึ่งเข้าลักษณะฝ่ายที่ต้องเสียอากรเป็นรัฐบาล และกรณีดังกล่าวไม่เข้าลักษณะองค์การของรัฐบาลที่ใช้ทุนหรือทุนหมุนเวียนเพื่อประกอบการพาณิชย์ กรณีดังกล่าวจึงไม่ต้องเสียอากรแสตมป์สำหรับสัญญากู้ยืมเงินดังกล่าว ตามมาตรา 121 แห่งประมวลรัษฎากร 2. สัญญาค้ำประกัน เข้าลักษณะแห่งตราสาร 17. แห่งบัญชีอัตราอากรแสตมป์ ตามประมวลรัษฎากร ผู้ค้ำประกันเป็นผู้มีหน้าที่เสียอากร แต่ถ้าเป็นการค้ำประกันหนี้เนื่องแต่การที่รัฐบาลให้ ราษฎรกู้ยืมหรือยืมเพื่อการบริโภคหรือการเกษตรกรรม ย่อมได้รับยกเว้นไม่ต้องเสียอากร |
เลขตู้ | : 61/27020 |